สกู๊ป : โอกาสยักษ์เขียวที่ “หลุดลอย”

สกู๊ป : โอกาสยักษ์เขียวที่ “หลุดลอย”

สกู๊ป : โอกาสยักษ์เขียวที่ “หลุดลอย”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผมนั่งดูทีม “ยักษ์เขียว” ไอร์แลนด์ เล่นท่ามกลางกระแสกล่าวขวัญถึง (แต่) ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แล้วอด “ชื่นชม” ไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกที่ได้ดูแมตช์ เวลส์ เฉือนสโลวาเกีย 2-1 ไม่ได้ จะต่างกันเล็กน้อยเท่านั้นตรงที่

ไอร์แลนด์ นำก่อน และโดนตีเสมอ 1-1 ทว่าไม่สามารถขึ้นนำ และเอาชนะได้เหมือนกับทีมมังกรแดง เวลส์

นอกนั้นคงต้องกล่าว “ยินดี” กับแฟน ๆ ทีมยักษ์เขียวในแง่ที่ทีมรักแสดงให้เห็นความทุ่มเท และเลือดรักชาติ รวมถึงความสมัครสมานสามัคคีกันภายในทีมอย่างเห็นได้ชัดครับ แฟนบอลไม่ต้องการอะไรหรอกครับ

แค่ได้เห็นผู้เล่นเตะ “เต็ม 100%” ให้สมกับที่พวกเค้าข้ามน้ำข้ามทะเล และเสียตังค์มาดูบอล เพียงเท่านั้นก็พอแล้ว และก็เท่ากับ “ชนะ” ไปครึ่งนึงแล้ว

 ยิ่งหากเล่นสนุก และเก็บผลการแข่งขันได้ด้วย จะเสมอ หรือชนะก็แล้วแต่ แฟนบอลก็ “ปลื้มปริ่ม” เป็นอย่างมากแล้วล่ะครับ แมตช์นี้ จริง ๆ แล้วเป็นเกมเท่า ๆ กันที่ “เสมอ” ไม่ได้ช่วยอะไรทั้งสวีเดน และไอร์แลนด์

ไม่ต่างจากเกมในลีกที่ 2 ทีม “หนีบ๊วย” เลี่ยงตกชั้นมาเจอกันแล้ว “เจ๊ากัน” ที่ไม่ต่างอะไรกับ “ตัดแต้ม” กันเอง

สู้ให้เกิดผลแพ้ชนะไปเลยจะดีกว่า อันจะเห็นได้ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายแม้จะเล่นค่อนข้างรัดกุม และแตกต่างสไตล์กัน โดยสวีเดน เน้นครองบอล และค่อย ๆ เข้าทำ แต่ไอร์แลนด์จะคิดเร็ว ทำเร็ว จนสร้างจังหวะจบได้ดีกว่า

ทว่า “ทั้งคู่” จะลุยบุกเหมือนกันตอนมีโอกาสอันทำให้เกมไม่ได้ “น่าเบื่อ” และถือว่าสร้างสรรค์ “คุณภาพ” ได้ระดับหนึ่งครับ

อย่างไรก็ดี ผลเสมอนัดนี้ น่า “เสียดาย” ตรงที่ คู่ถัดมาในกลุ่มอี เบลเยียม ทีมแรงค์กิ้งดีที่สุดกลับถูก อิตาลี เชือดนิ่ม ๆ 0-2 อันทำให้เกมถัดไปที่ มาร์ติน โอนีล และลูกทีมจะเจอเบลเยียม แปลงร่างเป็น “งานช้าง” ทันที

เพราะทีมปิศาจแดงแห่งยุโรปจะพลาดอีกไม่ได้ เรียกได้ว่า การทำเข้าประตูตัวเองของ เคียรัน คลาร์ก มีผลอย่างมากในเกมที่จริง ๆ แล้ว ยักษ์เขียวอาจรู้สึกถึงความผิดหวังได้มากกว่า จากจำนวนโอกาส และการทำประตูนำไปก่อน

ดังนั้น เกมนัดที่ 2 จึง “เข้าข่าย” สำคัญสุดยอดจริง ๆ เฉพาะอย่างยิ่งทีม “ยักษ์เขียว” ที่ต้องการโชค และจังหวะเป็นใจมากกว่าเกมแรกสักนิดครับ คือ หากโอกาสที่ทำได้ “หวาดเสียว” ไม่ว่าจะเจฟฟ์ เฮนดริค อัดชนคาน, จอห์น โอเช

ชาร์จผิดไม่ถึง 5 หลาที่น่าจะเป็นประตูอย่างยิ่ง เปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ เบลเยียมจะเป็นปิศาจลำบากทันทีไม่ใช่ “ยักษ์เขียว” ที่ต้องลุ้นต่อว่า ได้ทิ้งโอกาสให้หลุดลอยไปจากเกมที่ง่ายที่สุดของตัวเองหรือไม่?

ความหมายก็คือ จังหวะ “ตีเสมอ” ที่นำร่องไปก่อน และทำชิ่งก่อนหลุดเปิดเข้ากลางจากเส้นหลังแสดงให้เห็นว่า หัวหอกวัย 34 ปีทำอะไรได้บ้าง? และได้แค่ไหน? ประกอบกับ “รูปร่าง” ที่สูงใหญ่ เป็นเป้าหมายได้ดีในกรอบเขตโทษรวมกับสไตล์ชอบ

“ดร็อปตัว” ลงมาต่ำรับบอลน่าจะมีประโยชน์มากกับทีมแมนฯยูไนเต็ด  เพิ่มเติมคือ การครองบอลที่ดี และเหนียวแน่น แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า พรีเมียร์ลีกเข้าบอลหนักกว่า “ยูโร” และมีเวลาให้คิด ให้ทำน้อยกว่า

ดังนั้นกับการแค่ “โดนจับ” ขำ ๆ โดย เกลน วีแลน มิดฟิลด์ตัวรับของทีมไอร์แลนด์จึงไม่น่าจะมีผล หรือสามารถ “วัดได้” ว่า อิบราฮิโมวิช จะสอบผ่านฉลุยในเวทีลีกผู้ดี

ตรงกันข้าม ผมกลับมองว่า หมอนี่ “เชื่องช้า” และไม่ได้ต่างจาก มารูยาน เฟลไลนี่ ในบางเหลี่ยม บางมุม 

ดังนั้น หากจะประสบความสำเร็จ และ “เติมเต็ม” อาวุธหนักสู่ทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่ ได้จริง ๆ สภาพความฟิตของกัปตันทีมชาติสวีเดนจะต้องดีกว่านี้อย่างมากครับก่อนจะเปิดฤดูกาลใหม่

แน่นอนว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้เล่นอย่าง เวสลีย์ ฮูลาฮาน กองหน้าตัวต่ำไอร์แลนด์ที่ทำประตูได้ จึงดู “ขโมยซีน” นิด ๆ กับภาพรวมทีมที่ขยัน และวิ่งสู้ฟัด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook