เดือนเดียวตัดสินอนาคต?? โดย..ดามัน

เดือนเดียวตัดสินอนาคต?? โดย..ดามัน

เดือนเดียวตัดสินอนาคต?? โดย..ดามัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ อาร์เซนอลเดินทางมาถึงจุดที่จะอยู่หรือไปซะแล้ว ถ้าพลาดให้กับอูดิเนเซ่ ในการเล่นเพลย์ออฟนัดที่ 2 และพลาดซ้ำให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอีก 3-4 วันหลังจากนั้น รวมทั้งไม่ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อหานักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม ทุกอย่างในฤดูกาลนี้ของทีมปืนโตอาจจะพังครืนลงเพียงแค่เดือนแรกเท่านั้นเอง

อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่มีทางเลือกอีกต่อไป ทางออกก็คือต้องได้ผลการแข่งขันอย่างที่ต้องการและได้นักเตะเข้ามาเสริมทีม อย่างใดอย่างหนึ่งคงไม่ได้ ต้องมีทั้ง 2 อย่างเข้ามา

ถึงตอนนี้อาจจะเร็วไปที่จะตัดสินว่าทีมที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ ลีก หรือได้พื้นที่ไปเล่นถ้วยยุโรป แต่สถานการณ์ของอาร์แซน เวนเกอร์ และอาร์เซนอล ชักจะแสดงออกถึงความชัดเจนบางอย่างออกมาอย่างรวดเร็ว

ย้อนไปช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาของฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซนอลมีคิวเตะนัดชิงคาร์ลิ่ง คัพกับเบอร์มิงแฮม ต้องลงเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก กับบาร์เซโลน่า ในขณะที่พรีเมียร์ ลีก ยังลุ้นแชมป์แบบเต็มๆ พร้อมกับการยังยืนหยัดอยู่ในถ้วยเอฟเอ คัพ

ข้อบ่งชี้ที่ออกมาตอนนี้ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่ากุมภาพันธ์ปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งหลายอย่างพร้อมที่จะตัดสินลงไปในอีกไม่กี่วัน ถ้าโดนอูดิเนเซ่สอยร่วง และเสียท่าให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยที่ยังไม่มีการเสริมความแข็งแกร่งเข้ามา ถึงเวลานั้นอาจจะไม่มีถ้วยสำคัญให้ลุ้นอีกแล้ว

เวนเกอร์กำลังสูญเสียความเชื่อมั่นจากแฟนบอลไปอย่างต่อเนื่องและบานปลาย รวมทั้งสื่อที่กังขากับการตัดสินใจ ยิ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดความไม่สงบมากยิ่งขึ้นในค่ายเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงเรื่องราวดังกล่าว อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องรีบแก้ไขจุดอ่อนโดยเร็ว ต้องหานักเตะที่สามารถเป็นผู้นำเข้ามาเสริมทีม โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นนักเตะคุณภาพ แต่กับการเป็นกัปตันทีมไม่แน่ใจว่าเหมาะสมหรือเปล่า พิจารณาให้ดีแล้วจิ้มไปที่ โธมัส แฟร์มาเล่น ดีกว่ามั้ย

การกำกับเกม การกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม การสั่งการต่างๆ มันจะง่ายกว่ากันเยอะ ตำแหน่งกองหน้ามันไม่ค่อยเหมาะกับการเป็นกัปตันทีมสักเท่าไหร่ เมื่อเปลี่ยนแปลงกัปตันทีมแล้วก็คงต้องมาถึงเรื่องราวของการหว่านเงินเข้าสู่ตลาดซื้อขายในช่วงสุดท้าย เอากันแบบเห็นน้ำเห็นเนื้อ ไม่ใช่ไปซื้อดาวรุ่งมารอการพัฒนา

อาร์เซนอลต้องการนักเตะในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ต้องการเซ็นเตอร์แบ็ก แต่ไปซื้อ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ซึ่งไม่ใช่ตัวที่ทีมต้องการจริงๆ เวนเกอร์ต้องการตัวทำลายเกม ไม่ใช่ตัวสร้างสรรค์เกม

การพยายามชูคนในขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ทว่าบางครั้งจังหวะและเวลามันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ อย่างกรณีของ เอ็มมานูเอล ฟริมปง เมื่อต้องรับมือกับเกมที่เครียดๆ บรรยากาศที่อึมครึม เสียการควบคุมไปเหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่ตอกย้ำว่าต้องมีตัวที่มีประสบการณ์สามารถรับมือได้ทุกสถานการณ์เข้ามา เรียกว่าต้องมีมากพอต่อความต้องการของทีม

ตั้งแต่เข้ามาคุมทีมอาร์เซนอล ทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเวนเกอร์ พัฒนารูปแบบการเล่นของทีมจนเป็นที่น่าพอใจ วางรากฐานเอาไว้ค่อนข้างแข็งแกร่ง พร้อมกับการปรับรายรับรายจ่ายของสโมสรจนตัวเลขสวยงามตระการตา

กุนซือที่ประสบความสำเร็จ อาจจะเด็ดเดี่ยวในแนวคิดที่คิดว่าน่าจะถูกต้องและเหมาะสม แต่ก็คงต้องยอมรับความเป็นจริงด้วยว่ามีปัญหาอะไร และต้องแก้ไขแบบไหน แม้ว่าต้องปรับเปลี่ยนนโยบายกันใหม่เพื่อความเหมาะสม

ถ้าประสบความสำเร็จเรื่อยๆ ก็คงไม่มีปัญหาอะไรที่ต้องมานั่งวุ่นวายแบบนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องราวเมื่อฤดูกาลที่แล้วหรือแค่ 2 ปีที่ผ่านมา ทว่ามันบ่งบอกอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับแนวคิดของเวนเกอร์ที่อาจจะต้องแก้ไขกันใหม่หลังจากไม่ประสบความสำเร็จมาร่วม 7 ปีแล้ว

อาการดื้อแบบสุดโต่งของเวนเกอร์ไม่แพ้ใครหน้าไหน โดยเฉพาะเรื่องของการซื้อนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์หรือนักเตะที่มีมาดผู้นำและมีความสำคัญต่อทีมเหมือนนักเตะในอดีตอย่างปาทริค วิเอร่า, เธียร์รี่ อองรี หรือว่า โทนี่ อดัมส์

ไม่ถึงกับการฉีกหลักปรัชญาต่างๆ ของตัวเอง ไม่ถึงกับเปลี่ยนทุกอย่างแบบสิ้นเชิง เป็นเพียงแค่ปรับบางอย่างให้เข้ากับสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรต้องเสียหน้า

เวนเกอร์โชคไม่ดีที่เสียกัปตัน เชส ฟาเบรกาส และดูเหมือน ซาเมียร์ นาสรี่ จะตามไปอีกคน ไม่ควรเกิดขึ้นกับการเสียนักเตะตัวหลักไปพร้อมๆ กัน แต่มันก็เกิดขึ้น

ถึงนาทีนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ จึงต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เพราะทีมต้องการนักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม

และต้องการผลการแข่งขันที่คาดหวังเอาไว้

เรื่องโดย "ดามัน"

ขอบคุณเนื้อหาจากคอลัมน์ทดเจ็บ3นาที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook