Premier League Preview by มาร์ค สุรเดช:

ก่อนจะว่าถึงปรีวิวของเกมพรีเมียร์ลีกในสุดสัปดาห์นี้ คงต้องขอแสดงความห่วงใยไปยังทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราอยู่ในเวลานี้ ขอให้มีกำลังใจ และ ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปโดยปลอดภัยกันทุกคนทุกท่านนะครับ

ที่เมืองไทยประสบอุทกภัย ที่อังกฤษแสดงความห่วงใย แต่ก็เตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังในการจะเดินทางมายังประเทศไทย ทว่าแม้อะไรจะเกิดขึ้น แต่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ก็ยังคงดำเนินต่อไปและจะเตะกันครบทั้ง 10 คู่ในสัปดาห์นี้

โดยแบ่งเตะเป็น เสาร์, อาทิตย์ และ มีเกม มันเดย์ไนท์ กลับมาอีกครั้งด้วย

คู่เอกประจำสัปดาห์นี้คงจะหนีไม่พ้นเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล โดยอันดับของทั้ง 2 ทีมนั้นอาจจะห่างกันอยู่เล็กน้อยเป็นผลมาจากผลงานที่ไม่สู้ดีนักของทางฝั่ง อาร์เซนอล

ทว่าพวกเขากำลังเล่นด้วยความมั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อดูจากผลงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับทั้งในศึกสโมสรยุโรป และ ในเกมพรีเมียร์ลีกด้วย

ก่อนเกมนี้ทั้งสองทีมมีโปรแกรมลงเตะในฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบ 4 และต่างก็ประสบกับชัยชนะด้วยกันทั้งคู่ เชลซี บุกไปปราบ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ส่วน อาร์เซนอล ได้เล่นในบ้านก่อนเชือด โบลตัน 2-1 แถมดาวเตะเกาหลีใต้อย่าง ปาร์ค ชู ยอง ทำประตูชัยให้กับทีมได้อีกด้วย

มาดูสภาพทีมในเกมนี้ของ เชลซี จะขาดไปแน่ๆแล้ว 3 รายก็คือ โชเซ่ โบซิงวา, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ซึ่งทั้งคู่โดนไล่ออกจากเกมสัปดาห์ก่อนที่ไปพ่ายต่อ ควีนส์ปาร์ค ที่ ลอฟตัส โร้ด ขณะที่ รอสส์ เทิร์นบูล ที่ได้ลงเฝ้าเสาในเกม คาร์ลิ่ง คัพ ไปโดนใบแดงมาอีกราย ทำให้ทั้ง 3 หน่อนี้จะหมดสิทธิ์ลงเล่นในเกมนี้แน่นอน

เกมรุกของ เชลซี ได้รับข่าวดีเมื่อ เฟร์นันโด ตอร์เรส พร้อมจะกลับมาช่วยทีมล่าประตูได้อีกครั้งหลังจากพ้นโทษแบนเกมในประเทศแล้ว และคู่หูในแดนหน้าของหัวหอกสเปน

หากกุนซือ เอวีบี เลือกระบบกองหน้า 2 ตัว คงหนีไม่พ้น ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกดาวรุ่งที่ยิ่งเล่นยิ่งดี เกมคาร์ลิ่ง คัพ กลางสัปดาห์ สเตอร์ริดจ์ ก็ทำประตูพาทีมผ่านเข้ารอบมาหมาดๆอีกด้วย

ทางฝั่งของ อาร์เซนอล นั้น อาร์แซน เวนเกอร์ ให้สัมภาษณ์ว่าเขาอาจจะให้โอกาสกับ ปาร์ค ชู ยอง ในลีกบ้าง หลังจากอดีตดาวเตะของ โมนาโก โชว์ผลงานได้ดีในเกมบอลถ้วย

พาทีมผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งในเกมดังกล่าว อาร์เซนอล มีโอกาสจะๆในการลุ้นประตูเพียง 2 หน และพวกเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม

ความมั่นใจของนักเตะ “ไอ้ปืนใหญ่” เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยหลังจากตกไปรั้งท้ายๆตารางในช่วงของการออกสตาร์ท รวมถึงความพ่ายแพ้แบบสุดยับเยินที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทว่าจากผลงาน 8 เกมหลังสุดในทุกรายการที่ลงเล่น พวกเขาเอาชนะคู่แข่งถึง  7 เกมเลยทีเดียว

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของเขา และจะเป็นทีเด็ดในการลุ้นแบ่งแต้มกลับรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ความน่าจะเป็นของเกมนี้:

แม้จะมีปัญหาประเด็นของ จอห์น เทอร์รี่ และแพ้ต่อ ควีนส์ปาร์ค มาในสัปดาห์ก่อน ทว่า เชลซี ยังมีทีมที่แข็งแกร่งให้ เอวีบี เลือกใช้งานได้อยู่ดี เกมนี้ อาร์เซนอล คงต้องเล่นแบบระวังตัว หากไปคิดแลกด้วยอาจจะไปเข้าทางเจ้าถิ่นที่มีเกมรุกที่มีความเฉียบขาดมากกว่า ดูจากความน่าจะเป็นของเกมนี้ เชลซี น่าจะเป็นฝ่ายเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ

สถิติที่น่าสนใจของเกมนี้:

-เชลซี เล่นได้ดีในเกมลีกในบ้าน โดย 11 เกมหลังสุดของพวกเขานั้นสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ถึง 10 เกม และทำแต้มหลุดมือด้วยการเสมอ 1 เกม สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นแต่อย่างใด

-อาร์เซนอล เป็นทีมที่เกมรับย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ โดยจาก 4 เกมเยือนในฤดูกาลนี้  พวกเขาโดนคู่แข่งเจาะไข่แดงได้ถึง 14 ประตูเลยทีเดียว

-2 ฤดูกาลหลังสุดที่พบกันที่ เดอะ บริดจ์ เชลซี เอาชนะคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน อาร์เซนอล ด้วยสกอร์ 2-0 เหมือนกัน

ผลการแข่งขันที่คาด:
เชลซี ชนะ อาร์เซนอล 2-1

ความน่าจะเป็นของเกมคู่อื่นๆ คัดแบบเน้นๆเนื้อๆ:

เอฟเวอร์ตัน vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน มีผลงานการรับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในบ้านของพวกเขา 3 ปีหลังสุดที่ดี โดยไม่แพ้ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลย ปีที่แล้วก็เสมอกันดุเดือด 3-3

ความพ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะทำให้นักเตะของ ยูไนเต็ด โดน เซอร์ อเล็กซ์ ลงแส้อย่างหนักแน่นอน แต่ถึงแม้จะพกความมุ่งมั่นมามากมาย ทว่าเกมนี้ไม่ง่ายสำหรับพวกเขาแน่นอน

ผลการแข่งขันที่คาด: เอฟเวอร์ตัน เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1

เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน vs ลิเวอร์พูล

จะเป็นการโคจรมาพบกันของอดีต กับ ปัจจุบันสำหรับผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล โดยปีที่แล้ว รอย ฮอดจ์สัน ทำแสบไว้กับ ลิเวอร์พูล เมื่อพา “เดอะ แบ็กกีส์” เอาชนะทีมเก่าได้ที่ ฮอว์ธอร์น ด้วยสกอร์ 2-1  ลิเวอร์พูล เล่นดีแต่ปัญหาคือการจบสกอร์ หรือ การปิดเกมที่จำเป็นต้องมีความเด็ดขาดมากกว่านี้

โอกาสเสมอกันมีสูง แต่ ลิเวอร์พูล ยังมีทีเด็ดมากกว่านิดๆ

ผลการแข่งขันที่คาด: เวสต์บรอมวิช แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่ร้อนแรงที่สุดในอังกฤษเวลานี้ ทั้งผลงานในพรีเมียร์ลีก หรือ จะเป็นเกมสโมสรยุโรป พวกเขาร้อนแรงอย่างแท้จริง

ขณะที่ วูล์ฟส์ ผลงานไม่ดีเหมือนตอนต้นฤดูกาล แถม 5 เกมในลีกหลังสุด พวกเขาเสียประตูในครึ่งแรกทุกเกม ตรงนี้เป็นสิ่งที่ มิค แม็คคาร์ธีย์ จะต้องรีบขบคิดเป็นการใหญ่ หากไม่อยากโดนยำใหญ่กลับไป

4 ครั้งหลังสุดที่เจอกันที่บ้านของ ซิตี้ นั้นจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่นถึง 3 หน เกมนี้ก็ไม่น่าจะมีพลิกล็อกอะไรทั้งนั้น อยู่ที่ลูกทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ว่าจะยิงขาดให้แฟนๆได้สะใจกันเต็มที่หรือไม่เท่านั้นเอง

ผลการแข่งขันที่คาด: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-0

นอริช ซิตี้ vs แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส

การเสมอ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ ได้สำเร็จเมื่อสัปดาห์ก่อนพิสูจน์ให้เห็นถึงจิตใจอันแข็งแกร่งในตัวลูกทีมของ พอล แลมเบิร์ต ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้าน แบล็คเบิร์น นั้น สตีฟ คีน ยังต้องการผลงานจากลูกทีมที่สม่ำเสมอมากกว่านี้

โดยสถิติในการเล่นเป็นทีมเยือนของทีม “กุหลาบไฟ” นั้นไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะเรื่องของเกมรับ เมื่อพวกเขาเสียประตูไม่เสียประตูเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้นจากการออกนอกบ้านในลีก 23 เกมหลังสุด

นอริช ดูดีกว่าถ้าดูจากผลงาน และ แรงฮึดของพวกเขา แต่โอกาสออกเสมอมีความเป็นไปได้มากที่สุด

ผลการแข่งขันที่คาด: นอริช เสมอ แบล็คเบิร์น 0-0

สวอนซี vs โบลตัน วันเดอเรอร์ส

ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่า สวอนซี เป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกเวลานี้ ที่ยังไม่เคยเสียประตูในบ้านของตัวเองในเกมลีก นั่นแสดงให้เห็นว่าลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เลื่อนชั้นมานั้นไม่ได้ฟลุ้คแต่อย่างใด

โบลตัน เพิ่งจะโดนเขี่ยตกรอบในบอลถ้วยกลางสัปดาห์มา เกมลีกก็ฟอร์มตกรูดกราว และเอาชนะในลีกได้เพียงเกมเดียวจาก 8 เกมหลังสุด

หากเล่นได้ในมาตรฐาน สวอนซี มีลุ้นชนะ โบลตัน ได้ในเกมนี้

ผลการแข่งขันที่คาด: สวอนซี ชนะ โบลตัน 1-0

เรื่องโดย " มาร์ค สุรเดช"

คอลัมน์ Premier League Preview นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์