‘ลิเวอร์พูล’ทูเดย์

ชัยชนะของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่มีเหนือ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมแดงเดือด ฉบับพิเศษสุด

เพราะไม่เคยปรากฏมาก่อนในบันทึกประวัติศาสตร์ว่า ทั้งสองทีมได้เจอกันแบบ 2 ปีติดในถ้วยศักดิ์สิทธิ์ใบนี้

จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ภายหลังเกมนั้น ถือว่า เคนนี่ ดัลกลิช ตอบคำถามสื่อได้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับการมีชัยในฟุตบอลถ้วย 2 รายการติดๆ ทั้งการชนะสกอร์รวมเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในคาร์ลิ่ง คัพ และการปราบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ

ดัลกลิช ที่ตั้งแต่รีเทิร์นกลับมารับงานเมื่อปีที่แล้ว ไม่เคยด่าลูกทีมออกสื่อแม้แต่หนเดียว แต่เขาถึงกับทนไม่ไหวเมื่อเห็นทีมแพ้ โบลตัน แบบเหมือนเอาตอไม้ลงไปเล่น

ไม่น่าเชื่อว่า มันจะแบ็กกลับมาได้ผลขนาดนี้

ดัลกลิช บอกว่า “เราเริ่มต้นสัปดาห์นี้ได้อย่างย่ำแย่อย่างที่สุด ด้วยการแพ้ โบลตัน แต่เรากลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม และสามารถทำงานได้ดีในระยะเวลาอันรวดเร็ว”

เขาบอกอีกด้วยว่า “ผู้เล่นของเรายอดเยี่ยมมาก หลังจากเล่นได้ดีในเกมวันพุธ แต่เราเสียพลังงานไปเยอะ และเราต้องมาเจอกับของหนักอีกครั้งในวันเสาร์ ดังนั้นเมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้ทำให้ผมภูมิใจในตัวของลูกทีมมากที่สุด ผมไม่รู้จะพูดคำไหนที่ดีเพียงพอกับการทำงานของทุกคนในวันนี้”

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ดัลกลิช พอใจในตัวของ แอนดี้ คาร์โรลล์ หัวหอกค่าตัวแพง 35 ล้านปอนด์ ที่มีส่วนทั้งสองประตูในเกมนี้

ทั้งการปิดทาง ดาวิด เด เกอา ทำให้ทีมได้ลูกแรก และโหม่งชงให้ เดิร์ค เคาท์ หลุดไปยิงประตูชัย ไม่ใช่แค่ “บังแดด” เป็นอย่างเดียว

คาร์โรลล์ อย่างที่บอกไปว่า เขาเป็นนักเตะที่โชคร้ายที่ต้องแบกภาระค่าตัวแพงตั้งแต่ยังเด็ก และมันมากเกินไปอย่างที่คนรับทราบกันเป็นอย่างดี

สถานการณ์มันบีบให้ต้องซื้อ เพราะเมื่อ เฟร์นานโด ตอร์เรส คิดไม่ซื่อ ทำให้ ดัลกลิช ไม่มีทางเลือก และมันก็กลายเป็นปัญหา

คาร์โรลล์ จะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อเล่นกองหน้าในระบบ “หัวหอกคู่” แต่ทุกวันนี้ ลิเวอร์พูล เล่นในระบบ “หัวหอกคี่” อย่างที่เห็น

สไตล์การเล่นคือให้นักเตะที่มีความคล่องตัวสูงในเกมรุก ใช้กองหน้าตัวเดียวในการเล่น ขนาบข้างด้วยปีกสองตำแหน่ง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ เคร็ก เบลลามี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ จะโดดเด่นมาก ผิดกับนักเตะที่เล่น “ปัก” ในตำแหน่งตัวเองอย่าง สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เดิร์ค เคาท์ และแน่นอน คาร์โรลล์

การเล่นของ คาร์โรลล์ ในเกมที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า เขามีบทบาทกับทีมมากขึ้น เมื่อทีมเน้นในการเปิดใส่เข้าไปมากขึ้น ก่อนที่จะต้องมาเล่นสไตล์ที่ทีมถนัดในครึ่งหลังนั่นคือ จ่ายสั้นๆ และเล่นทะลุช่องมากกว่าเดิม

เมื่อชนะได้สำเร็จ หลายคนมองว่า ลิเวอร์พูล ประเด็นหลักในตอนนี้คืออะไรกันแน่ ลักษณะการให้เนื้อให้น้ำความสำคัญอยู่ที่จุดไหน

ประเด็นแรกคือ นัดชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ กับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้

ประเด็นที่สองคือ ทำอันดับให้ไปเตะแชมเปี้ยนส์ลีกนั่นคือ 4 อันดับแรก หรือว่า “เอาที่ 4” ให้ได้นั่นแหละ

ประเด็นที่สามคือ เอฟเอ คัพ ที่ตอนนี้จับสลากเจอกับ ไบรจ์ตัน จากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ที่พวกเขาเคยพิชิตมาแล้วในลีกคัพปีนี้

อันนี้น่าคิดไม่น้อย และจะเล่นสไตล์ไหนเมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ กลับมา เพราะจะต้องลงเล่นตัวจริงแน่ 4-3-3 ตามถนัด เล่นสวยแต่ไม่ค่อยมีสกอร์

หรือว่า 4-4-2 เพื่อความสมาร์ตในเกมรุกแบบเต็มรูปแบบ

ระหว่างช่วงคืนฟอร์มนี่แหละยังมีคำถามมากมายที่แอนฟิลด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจอกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่ใครๆ ก็บอกว่า “ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย” อันนั้นก็ไม่แน่

การเจอบอลตั้งรับเหนียวๆ ปีนี้หลายทีที่เล่นไม่เป็น ไม่อย่างนั้นคงไม่เสมอแบบตะพึดตะพือแบบนี้ ซึ่งแฟนบอลหวังเหลือเกินว่า ลีกคัพต้องไม่มีการตกม้าตาย

ไม่อย่างนั้นวอดวาย...ทุกรายการ!

เรื่องโดย " บี แหลมสิงห์ "