กรีนรับชีวิตคงพังหากตัดสินใจค้าแข้ง

"ได กรีน" ชี้คงรับมือไม่ไหวหากมีรายได้อู้ฟู่ตั้งแต่เด็ก เหน็บพ่อค้าแข้งได้เงินมาง่ายทำนิสัยเสีย ยันมาถึงจุดนี้ได้เพราะหยาดเหงื่อแรงกายล้วนๆ

เดวิด "ได" กรีน ยอดกรีฑาวิ่งข้ามรั้ว กัปตันทีมสหราชอาณาจักรชุด โอลิมปิก ยอบรับว่าตนคงกลายเป็นคนไม่เอาถ่านเป็นแน่ หากก้าวขึ้นเป็นนักกีฬาอาชีพในฐานะนักฟุตบอล หลังเคยเป็นแข้งจูเนียร์ของ "หงส์ขาว" สวอนซี ซิตี้ ทีมในบ้านเกิด ก่อนตัดสินใจปฏิเสธสัญญาอาชีพเมื่ออายุ 16 ปี และเปลี่ยนเส้นทางมาเป็นจ้าวลมกรดเช่นทุกวันนี้

จอมข้ามรั้ววัย 26 ปี กล่าวเหน็บบรรดาพ่อค้าแข้ง ว่า "ตอนเป็นวัยรุ่นผมค่อนข้างไร้เดียงสา ถ้าผมอยู่ในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งทำเงินได้ครั้งละมากๆ ผมคงรับมือไม่ไหว และคงกลายเป็นไอ้ห่วยแน่ๆ ผมกลัวที่จะต้องกลายเป็นคนแบบนั้น ไม่รู้ว่าคุณจะรับมือเรื่องความร่ำรวยของนักฟุตบอลยังไงนะ คุณให้รายได้เขามากมายตั้งแต่ยังหนุ่ม ตั้งแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ มันได้มาง่าย ดังนั้นจะไปกะเกณฑ์ไม่ได้หรอกว่าเขาจะทำยังไงกับมัน"

"เส้นทางของผมเป็นเรื่องของการแสดงศักยภาพของสิ่งที่คุณบรรจุเข้าไป ซึ่งผมบรรจุการซ้อมอย่างหนักลงไปในนั้น มันทำให้คุณภูมิใจได้ แต่ก็อาจทำให้เสียศูนย์ได้เร็วเช่นกัน แต่เพราะมีสิ่งเหล่านี้ จึงทำให้ผมแข็งแกร่ง ผมต้องเหนื่อยมาเยอะ ซึ่งเมื่อหันกลับไปมองเส้นทางที่ผมผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่างช่วยให้ผมมีวันนี้ได้" ลมกรดเลือดมังกรแดง ทิ้งท้าย

กัปตันทัพกรีฑา "จีบี" ผู้นี้ถูกคาดว่าจะเป็น ชาวสหราชอาณาจักรคนแรกที่คว้า 4 เหรียญทองในรายการระดับเมเจอร์ นับตั้งแต่ แซลลี่ กันเนลล์ ตำนานข้ามรั้วหญิงทำได้เมื่อปี 1994 หากเจ้าตัวคว้าเหรียญทอง โอลิมปิก ครั้งนี้สำเร็จ หลังเคยคว้าเหรียญ กรีฑาชิงแชมป์ยุโรป และ คอมมอนเวลธ์ เกมส์ เมื่อปี 2010 ตามด้วย กรีฑาชิงแชมป์โลกเมือปี 2011 ในประเภทวิ่งข้ามรั้ว 400 เมตร