"ฟัลเกา"ดาวยิงลายพยัคฆ์

จบเกมยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ ที่โมนาโก เป็นอะไรที่เซ็งมากๆ สำหรับแฟนเชลซี รวมทั้งตัวผู้เขียน ก็แหงล่ะ ตั้งความหวังไว้ซะดิบดี ตั้งใจจะหยิบแชมป์แรกของซีซั่นให้ได้ แต่กลับโดนเขาตบมาซะเละเทะขนาดนั้น

เชื่อว่าคืนนั้น แฟนๆ เชลซี หลับตาคงฝันเห็นแต่หน้าตาคมเข้มของเจ้าหนุ่มชาวโคลอมเบีย นาม ราดาเมล ฟัลเกา การ์เซีย เป็นแน่แท้ ก็แหงล่ะ ในเกมนั้นบอลถึงไอ้หมอนี่ทีไร เป็นได้เรื่องทุกที จนสกอร์มาจบที่ 4-1 ชนิด สิงห์บลูส์ สู้ไม่ได้ ด้วยแฮตทริกของดาวเตะรายนี้

ต้องยอมรับครับว่า ชั่วโมงนี้ ถ้าจะหากองหน้าตัวจบที่ดีที่สุดในโลกชั่วโมงนี้ ต้องมีชื่อของ เจ้า "เอล ติเกร" หรือเจ้า พยัคฆ์ร้าย อย่างแน่นอน เพราะยามใดที่ บอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ฟัลเกา จะกลายร่างเป็น เสือร้ายที่ได้กลิ่นคาวเลือดพร้อมตะครุบเหยื่อทันที

ชื่อชั้นของ ฟัลเกา นั้นอาจจะยังไม่ได้โดดเด่นในยุคนี้มากนัก เพราะว่าดันมีสองปีศาจอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ จาก บาร์เซโลน่า และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ จาก เรอัล มาดริด สิงห์สถิตอยู่ แต่ว่าถ้าไปดูสถิติของ ฟัลเกา จริงๆ ตั้งแต่แรก ต้องบอกว่า ดาวเตะวัย 26 มีสถิติการถล่มประตูที่น่าประทับใจมาโดยตลอด

ฟัลเกา นั้นเริ่มค้าแข้งใน อาร์เจนติน่า กับ ริเวอร์เพลท และตะบันไปทั้งสิ้น 49 ประตู จากการค้าแข้งให้ต้นสังกัดเป็นเวลา 4 ปี ส่งผลให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลชาวโคลอมเบีย ที่ยิงประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เหนือ ฮวน ปาโอล อังเคล ที่เคยทำเอาไว้ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน

พอเริ่มมาค้าแข้งในยุโรป เขาย้ายมาเล่นให้กับ เอฟซี ปอร์โต้ เมื่อปี 2009 ด้วยค่าตัว 4 ล้านยูโร (200 ล้านบาท) และก็กลายสภาพจากเสือน้อย แห่งโคลอมเบีย มาเป็นพยัคฆ์โคเคน ที่น่าเกรงขาม

ผมรู้จักฟัลเกา ครั้งแรกก็ตอนดู ปอร์โต้ ในยุคของ อังเดร วิลลาส โบอาส นี่แหละครับ ด้วยความที่บางทีมันนอนไม่หลับ เลยเป็นแฟนปอร์โต้เฉพาะกิจ เพื่อกู้วิกฤต และก็เห็นไอ้หมอนียิงประตูให้ได้เฮทุกครั้งไป จนเริ่มจำชื่อ ฟัลเกา ได้ชัดเจน

ในการแข่งขันยูโรปา ลีก เมื่อฤดูกาล 2010-2011 ฟัลเกา สร้างสถิติมหัศจรรย์ ยิงไป 18 ประตู ในรายการยูโรปา ลีก ปีเดียว ทำลายสถิติ เดิมของ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ไปอย่างสุดยอด รวมถึงประตูในรอบชิงชนะเลิศ ที่ช่วยให้ ปอร์โต้ ชนะ บราก้า 1-0 คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ไปครองได้สำเร็จ

สถิติของ ฟัลเกา กับ ปอร์โต้ ตลอด 2 ซีซั่นนิด ๆ อยู่ที่ 87 นัด ยิงได้ 72 ประตู ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสถิติที่การันตีการเป็นยอดดาวยิงของเขาได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีหลายรายที่ยังปรามาสฝีเท้าของ ดาวยิงรายนี้ว่า อาจจะดีแค่ในลีกกับโปรตุเกสเท่านั้น มาเจอลีกใหญ่ก็บ้อท่า

ปีต่อมา ฟัลเกา ตัดสินใจย้ายจาก ปอร์โต้ มาเล่นให้กับ แอตเลติโก มาดริด ทีมดังแห่งศึกลา ลีกา สเปน ด้วยค่ามหาศาลถึง 40 ล้านยูโร โดยทีม "ตราหมี" หวังที่จะเอาเขามาแทนที่ทางด้านของ เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน ที่อำลาทีมไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ฟัลเกา ไม่ทำให้แฟนๆ ตราหมีผิดหวัง เขาเข้ามานั่งใน 4 ห้องหัวใจของแฟนๆ หมีคอมมานโด ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความที่เป็นดาวยิงที่ครบเครื่อง ยิงได้ทั้งซ้าย, ขวา หรือจะเป็นลูกโหม่ง เขาทำได้ดีทั้งหมด

ปีแรกของ ฟัลเกา นั้น ยิงไปทั้งสิ้น 36 ประตู และช่วยให้ แอตฯ มาดริด คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก มาครองได้สำเร็จ และสมัยที่สองของตัวเอง พร้อมพ่วงตำแหน่งดาวซัลโวประจำรายการอีกครั้งด้วยการยิงไป 12 ประตู จนได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่ง ยูโรปา ลีก

อย่างไรก็ตาม สถิติ 73 ประตู ของ เมสซี่ และ 60 ประตู ของ โรนัลโด้ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้ สถิติการถล่มประตูของ ฟัลเกา ไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก แต่ถ้าได้ดูเกมการเล่นของ แอต.มาดริด แล้วต้องบอกว่า นับวัน ฟัลเกา ยิ่งกลายเป็นกองหน้าสมบูรณ์แบบมากขึ้นเข้าไปทุกขณะ

นี่ขนาดเพิ่งเริ่มฤดูกาล ยังกดแฮตทริกไปแล้ว 2 ครั้ง รวมเกมกับ เชลซี จากโอกาสรวมทั้งหมดไม่ถึง 10 ครั้ง ดูแล้วในซีซั่นนี้ คงจะเป็นอีกปี ที่ฟัลเกา จะยิงประตูถล่มทลาย อย่างแน่นอน ถ้าหากไม่เจ็บไปซะก่อน

และบางที อาจจะเป็นปีสุดท้ายของ พยัคฆ์โคเคน ในถิ่นบิเซนเต้ กัลเดร่อน ก็เป็นได้

เรื่องโดย "The Nut"