"ชนะ"...แล้วความ "มั่นใจ" จะแก้ไขทุกปัญหาได้

"ชนะ"...แล้วความ "มั่นใจ" จะแก้ไขทุกปัญหาได้

"ชนะ"...แล้วความ "มั่นใจ" จะแก้ไขทุกปัญหาได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผมนั่งอ่านบทวิเคราะห์หลังเกม "แดงเดือดสมานฉันท์" จากสื่ออังกฤษเพื่อตรวจสอบกับ "ความคิด" ตัวเองที่ได้แสดงความเห็นไว้เมื่อวานนี้ และเทียบกับ "กระแส" บ้านเราว่า "เหมือน" หรือ "ต่างกัน" อย่างไร?

หลัก ๆ ที่พบไม่แตกต่าง และแบ่งได้เป็น 2 ประเด็นหลัก: 1.เรื่องฟอร์มการเล่น และผลการแข่งขัน และ 2.การตัดสินของกรรมการ

แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็คขวาทีมปิศาจแดง แสดงความเห็นผ่าน "Sky Sports" ว่า ท่านเซอร์จะต้องไม่แฮปปี้กับผลงานลูกทีมแน่ ๆ เฉพาะอย่างยิ่งในแง่การครองบอลทั้งที่ลิเวอร์พูลเหลือผู้เล่น 10 คนอยู่กว่า 50 นาที แต่ทีมปิศาจแดงกลับไม่สามารถ "ครองเกม" ได้เลย

ในส่วนการตัดสินของ มาร์ค ฮัลซีย์ นั้น เนวิลล์มองว่า สามารถให้ใบเหลืองทั้ง จอนโจ้ เชลวีย์ และจอนนี่ อีแวนส์ ได้ในเกมที่ไม่อยากให้มีการ "ไล่ออก"

ขณะที่มองการไม่ได้ "จุดโทษ" ของหลุยส์ ซัวเรซ ว่าเป็นเพราะนักเตะอุรุกวัยออกท่าทาง "โอเวอร์แอ็คติ้ง" มากเกินไป

ประเด็นนี้ได้รับการ "สนับสนุน" โดยสตีวี เจอร์ราร์ด ที่กล่าวว่า กรรมการตัดสินซัวเรซจาก "ชื่อเสียง" การเป็นจอมพุ่งมากกว่าจะพิจารณาจากเหตุการณ์จริง เช่น สัปดาห์ก่อนกับซันเดอร์แลนด์ที่ "โดนเหลือง"

มากกว่านั้น เจอร์ราร์ดยังระบุครับว่า ใน "บิ๊กแมตช์" ลักษณะนี้ การตัดสินต้อง "เป็นใจ" ด้วยประมาณหนึ่ง หาไม่แล้วก็จะ "ลงเอย" เช่นเกมนี้

 

หลุยส์ ซัวเรซ ห้ามเจ็บ และห้ามโดนใบเหลืองอีก (บ่อย ๆ) หาไม่แล้วหงส์แดงจะยิ่งลำบาก ชนะยาก

อลัน แฮนเซ่น อดีตปราการหลังตัวกลั่นของหงส์แดง ลิเวอร์พูล แสดงความเห็นผ่านคอลัมน์ของตัวเองใน "เดลี่ เทเรกราฟ" ว่า แมนฯยูฯเป็น "พี่เต้ย" จริง ๆ ในแง่ที่เล่นไม่ดีแต่ชนะ

ขณะที่เบรนแดน ร็อดเจอร์ส น่าจะยอมปรับสไตล์การเล่นบ้าง เพราะการเน้น "ต่อบอล" ตลอดเวลาเช่นนี้ เฉพาะอย่างยิ่งช่วง 10 นาทีท้ายแบบไม่จำเป็น

เด็กหงส์จะต้อง "แม่นยำ" และแน่นอน 100% หาไม่แล้วความผิดพลาดเล็กน้อย ๆ จะกลายมาเป็น "หอก" ทิ่มแทงตัวเองได้

ที่น่าสนใจคือ ประโยคที่ว่า "ปัญหาของลิเวอร์พูลนั้น ลึกกว่า แค่เรื่องการตัดสินของกรรมการ" อันเป็นบทสรุปที่ค่อนข้างชัดเจนในตัวเอง

นอกจากคนดังระดับเป็น "อดีตผู้เล่น" และนักเตะปัจจุบันข้างต้น ผมได้คัดมุมมองจาก โดมินิค คิง แห่ง "เดลี่ เมล์" และเจมี แจ็คสัน จาก "เดอะ การ์เดี้ยน" ซึ่งเป็นนักข่าวที่เขียนบทความได้น้ำได้เนื้อพอควรมาฝากด้วย

โดมินิค คิง มองเกี่ยวกับลิเวอร์พูลเพิ่มเติมว่า หงส์แดงต้องชนะเกมแรกให้ได้ในเวลาที่ความ "รู้สึก" แฟนหงส์ตลบอบอวลไปหมดตอนนี้ว่า ทีมโปรดน่าจะได้แต้มมากกว่านี้ เช่น ไม่ควรได้ 1 แต้มจาก 2 ทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ (6 แต้มเต็มก็ไม่น่าเกลียด!?)

และลิเวอร์พูลเล่นได้ดีด้วย "สไตล์" ที่น่าดู น่าชื่นชม แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถเก็บ 3 แต้มเต็มได้เสียทีจนร็อดเจอร์สพูดว่าเป็น "Death by football" หรือน่าจะตีความได้ว่าเป็นการตายของฟุตบอลที่สวยงาม

โดยประเด็นใหม่ "แกะกล่อง" ที่ร็อดเจอร์ส และสาวกหงส์ต้องคิดหนักคือ ความใหญ่ของทัพนักเตะที่ดีที่มี เพราะยามนี้ 5 นักเตะหลักกำลังบาดเจ็บ และติดแบน

มาร์ติน เคลลี่ เจ็บหนักที่เส้นเอ็นกากบาทบริเวณหัวเข่า และพักยาวตลอดซีซั่นแน่นอน, ลูคัส ยังเดี้ยงกล้ามเนื้อโคนขา, จอนโจ้ โดนแบน 3 แมตช์, ฟาบิโอ บอรินี่ ข้อเท้า, แดเนียล แอกเกอร์ หัวเข่า หรือซัวเรซก็โดนแล้ว 3 เหลืองซึ่งก็ใกล้จะโดนแบนเข้าไปทุกที ๆ

ขณะที่ เจมี แจ็คสัน พูดเหมือนผมเมื่อวานครับว่า แมนฯยูฯ ต้องเติมมิดฟิลด์ตัวกลางดี ๆ และมีพลังจะเติมเกมแบบ Box-to-box หรือหน้าเขตโทษ ถึงอีกหน้าเขตโทษได้

เพราะหลังจากหมดยุค รอย คีน ในปี 2005 ทีมปิศาจแดงก็ไม่มีนักเตะลักษณะนี้อีกเลย และจากมิดฟิลด์ 7 ตัวที่มี ท่านเซอร์มีอันแดร์สัน คนเดียวเท่านั้นในตอนนี้ที่มี "พลัง" พอจะตัดเกม และเติมเกมรุกลักษณะดังกล่าวได้

พอล สโคลส์ และไรอัน กิ๊กส์ ไม่ใช่แกนหลักอีกต่อไปแล้ว

ส่วนตัวแล้ว หากแมนฯยูฯ ได้ ยาย่า ตูเร่ เพียงคนเดียว พวกเค้าจะ "การันตี" แชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้ และรอบตัดเชือกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทันที หรือจริง ๆ แล้วมุสซ่า เดมเบเล่ คือ นักเตะที่เคยตกเป็นข่าว และมีสไตล์ "ใกล้เคียง" กับสิ่งที่ขาดแคลนนะครับ

ไม่นับ จอนโจ้ เชลวีย์ ที่ผมได้เอ่ยถึงเมื่อวานนี้เช่นกัน แต่เชลวีย์เป็นเรื่องของอนาคต เช่นเดียวกับ นิค พาวล์ และทอม เคลฟเวอร์ลีย์

อย่างไรก็ดีครับ ฟุตบอลเวลา "ไม่ชนะ" ปัญหาจะเยอะแยะมากชนิดต่อให้ "งัดตำรา" ทุกเล่มมาอธิบายก็แจกแจงไม่มีทางหมด

เนื่องจาก "บอลแพ้" พูดอย่างไรก็ผิดเหมือนดังที่แฮนเซ่นสรุปง่าย ๆ แหละครับว่า ปัญหาของลิเวอร์พูลยามนี้มันมากกว่าเรื่องกรรมการ และก็มากกว่าเล่นดีไม่มีแต้ม

จุดนี้จึงรอเพียงแค่ 3 แต้มแรกว่าจะเป็น "ตัวช่วย" และสร้าง "จุดเปลี่ยน" ได้ขนาดไหน!? ซึ่งผมก็หวังว่า ชัยชนะจะมาเร็วที่สุด เพราะหงส์แดงมี 5 แมตช์แรกที่ "หิน" อยู่พอควรในซีซั่นนี้

เช่นกันครับ "คนชนะ" พูดอะไรก็ถูก ดังนั้นผมเองก็อยากเห็นแมนฯยูฯ "โดนบ้าง" หาไม่แล้ว พอเอาตัวรอดได้บ่อย ๆ ปัญหาที่แท้จริงก็จะถูกมองข้าม

สุดท้าย และน่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเกมฟุตบอลก็คือ "ความมั่นใจ" ซึ่งถูกสร้างขึ้นได้ หรือเกิดขึ้นได้จากการเก็บชัยชนะได้บ่อย ๆ

นักเตะทุกคน และทีมฟุตบอลทุกทีม ต้องการ "ความมั่นใจ" ที่หากเกิดขึ้นแล้ว เป้าหมายกว้างไกลแค่ไหนก็สามารถ "เป็นจริง" ได้ ดังนั้นหงส์ต้องเริ่มต้นชนะ และผีต้องชนะต่อไปเรื่อย ๆ

หลังจากนั้น เราอาจจะได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของทั้ง 2 ทีมในฤดูกาลที่ยังเหลืออีกตั้ง 33 แมตช์ครับ...

เรื่องโดย "Kai Mook Dam"

อัลบั้มภาพ 56 ภาพ

อัลบั้มภาพ 56 ภาพ ของ "ชนะ"...แล้วความ "มั่นใจ" จะแก้ไขทุกปัญหาได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook