มันชินี่ ใช้ "RVP" เป็นข้อแก้ตัว

มันชินี่ ใช้ "RVP" เป็นข้อแก้ตัว

มันชินี่ ใช้ "RVP" เป็นข้อแก้ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : เมื่อ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพิ่งฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 71 ปี ขณะที่อีก 1 วันถัดมาลูกทีมก็มอบ "ของขวัญ" เป็นชัยชนะเหนือวีแกน 4-0 ที่ DW สเตเดี้ยมในเกมที่จะ "ง่าย" กว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

ที่ว่าง่ายก็คือ เรา ๆ ท่าน ๆ ที่นั่งชมการถ่ายทอดสดอยู่ทาง "ทรู วิชั่นส์" สามารถลุกไปรดน้ำต้นไม้, กวาดบ้าน, เข้าห้องน้ำ, ทานข้าว หรือทำ "กิจกรรมอื่น" พร้อมชมเกมคู่นี้ได้แบบ "สบายใจ"

เกมแบบนี้ ภาษาฟุตบอลเรียกว่า "ไม่มีลุ้น" และแม้สกอร์จะไม่ถล่มทะลายเหมือนเชลซี "ตบเด็ก" แอสตัน วิลล่า 8-0 เมื่อปลายปี

ทว่า ความกดดันไม่มี และไม่มีช่วงเวลาใดเลยตลอด 90 นาทีที่ผมรู้สึกว่า ทีมปิศาจแดงจะเหนื่อย

เกมลักษณะนี้ หรือแมตช์อื่น ๆ ที่ผมได้ดูไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล บุกชนะคิวพีอาร์ 3-0, หงส์ ถล่มฟูแล่ม 4-0 มีอะไรที่เหมือนกัน 1 อย่างคือ หากทีม "รองบ่อน" ปล่อยให้ทีมที่เหนือกว่าต่อบอลง่าย ๆ ในแดนกลาง และมี "เวลา" อยู่กับบอลมากมาย

เมื่อนั้นจะลำบาก และจะลงเอยด้วยความปราชัยแน่ ๆ สกอร์เท่าไหร่? ค่อยว่ากัน

แต่หาก "ทำงานหนัก" หรืออย่างน้อยสู้เกิน 100% เข้าตำราไม่เก่ง แต่ขยัน เมื่อนั้นจะมีสิทธิ์เป็นเรื่อง เช่น สโต๊ค ที่ถล่มลิเวอร์พูล ราบคาบ 3-1, เซาแธมป์ตัน ยันปืนใหญ่ 1-1 ได้แบบน่าชนะ หรือซันเดอร์แลนด์ ดับซ่า แมนฯ ซิตี้ 1-0 จนเป็นเหตุให้ "ช่องว่าง" ขยายถึง 7 แต้มจนถึงเวลานี้

ครับ นักเตะ "ชั้นเชิง" สูง หรือบรรดาทีม "พี่เบิ้ม" ที่เน้นครองบอล ต่อบอล ทั้งหลาย หากเจอเกมกดดัน ไล่บี้ไม่มีหยุด เมื่อนั้นมีสิทธิ์ไปไม่รอด

แต่หากไม่ "ล็อค" ให้อยู่หมัด เช่น แมตช์ฟูแล่มซึ่งเกมนอกบ้านแย่มาก ทว่าเวสต์บรอมฯ ปล่อยให้ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เหาะ เหิน เดิน อากาศ ได้ตามใจชอบ หรือจะคิดทำอะไรก็ทำแล้ว

ผลลัพธ์ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น เฉพาะอย่างยิ่งยามหัวหอกบัลแกเรีย "in mood" หรือ "อารมณ์ดี" คิดอยากเล่นบอลด้วยแล้ว เจ้าเบิร์บ คือ ที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีก ครับ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่จะตัดสินนักเตะ "ระดับโลก" ออกจาก "ระดับขาติ" หรือโคตรนักเตะ จากนักเตะธรรมดา ก็คือ ผลงานที่ดีที่ต้องสม่ำเสมอ

ตัวอย่างเช่น โรบิน ฟาน เปอร์ซี กับผลงานตลอด 7 ปีกับอาร์เซนอล และซีซั่นก่อนที่ยิงเกิน 30 ประตูทั้งที่บาดเจ็บอยู่เนือง ๆ

ปีนี้ RVP สร้างความแตกต่างให้ทีมปิศาจแดงแล้วหลายต่อหลายนัดจากการสังหาร 16 ประตูเพียงแค่ "ครึ่งทาง" พรีเมียร์ลีก

อันหมายความว่า หากไม่เจ็บรุนแรง RVP จะยิงทะลุหลัก 30 ประตูได้อีกครั้งซึ่งจะเป็น "ปัจจัย" สำคัญต่อการลุ้นแชมป์อีกสมัยของท่านเซอร์

ตรงกันข้าม ธีโอ วัลคอตต์ กำลังเริ่มจะเล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดในชีวิต และกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ "ไม่บาดเจ็บ" ที่นานที่สุดครั้งหนึ่งของตัวเอง

การได้เล่น "หน้าต่ำ" ตามฝัน และเริ่มจะทำได้ดีเฉพาะอย่างยิ่งแมตช์ถล่มนิวคาสเซิล 7-3 ที่วัลคอตต์ "ครบเครื่อง" ทุกรสชาติกำลังสร้างปรากฎการณ์ "ธีโอ ๆ ๆ ๆ" ขึ้นมาในถิ่นเอมิเรตส์

แต่ก็อย่างที่ มาร์ติน คีโอว์น อดีตปราการหลังของทีมได้ติงไว้ครับว่า วัลคอตต์กำลังเล่นเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ดังนั้นความมุ่งมั่นจึงมีมากเป็นพิเศษ

ทว่าหลังจากได้ทุกอย่าง เช่น สัญญาฉบับใหม่ หรือได้ย้ายทีม และได้เล่น "ประจำ" ในตำแหน่งกองหน้าแล้ว เจ้าตัวจะรักษาผลงานแบบนี้ได้หรือไม่!?

ล่าสุด กับเกมกระเสือกกระสนที่น่าแพ้เซาแธมป์ตัน วัลคอตต์แสดงให้เห็นการ "ขาดทักษะ" กองหน้าพันธุ์แท้ที่เค้าต้องเรียนรู้อีกเยอะ

เช่น ไม่ได้โยกออกซ้ายขวา หรือดร็อปต่ำเพื่อรับบอล หรือการวิ่งทะแยงมุม หรือรวม ๆ ก็คือ การสร้างปัญหาให้กองหลังต้องคิด หรือวิตกกังวล

ทั้งนี้ วัลคอตต์ "ปักหลัก" มากไปจนแทบไม่ได้บอล และก็แก้ปัญหานี้ไม่ได้ตลอดเกมในวันที่จะว่าไปแล้วอาร์เซนอลเล่นได้แย่ทั้งทีม

วกกลับมาที่ "กรณี RVP" ครับ ผมเองได้แสดงความเห็นไว้ในเฟซบุ๊คหน้าเพจตัวเองตามที่แนบมาให้แล้วเช่นกัน

หลัก ๆ คือ ผมไม่ประทับใจ "ทัศนคติ" และแนวคิดแบบ โรแบร์โต้ มันชินี่ ในมุมมองเกี่ยวกับฟุตบอลสักเท่าไหร่ เพราะฟุตบอลไม่มีสูตรสำเร็จ

ดังนั้นการจะเอาเรื่องผลงาน RVP มาเป็นข้อแก้ตัว ผมว่ามัน "มักง่าย" เกินไปครับ

เรื่องโดย "Kai Muk Dum"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook