จุดอ่อนบอลไทย ?

ฟุตบอล: ก่อนเข้าเรื่องขอเลี้ยวไปแสดงความเสียดายกับสาวน้อยมหัศจรรย์แห่งวงการกอล์ฟไทยวัย 17 ปี "น้องเม" เอรียา จุฑานุกาล ที่ต้องชวดแชมป์แบบสุดช้ำ เพราะประสบการณ์และความกดดันจนทำให้พลาดพลั้งในหลุมสุดท้าย

ครับ...เรื่องของประสบการณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญมากในเกมกีฬา โดยเฉพาะเมื่อมีความกดดันเข้ามาเพิ่ม เพราะมันจะทำให้ตัวเองไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

เลี้ยวกลับเข้าเรื่อง "บอลไทย" ไม่ต่างอะไรในเรื่องของประสบการณ์ที่ถือเป็น "จุดอ่อน" อย่างยิ่ง และคงจะโทษใครไม่ได้นอกเสียจากท่านผู้นำแห่งวงการลูกหนังไทย คุณวรวีร์ มะกูดี นั่นแหละครับ

การเตรียมทีมที่กระท่อนกระแท่น ไม่มีโปรแกรมอุ่นเครื่องอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเกมเยือน สิ่งเหล่านี้คือ "จุดอ่อนบอลไทย" ที่ตัวท่านนายกสร้างมันขึ้น

เกือบ 6 ปี ในการนั่งเก้าอี้นายกลูกหนัง ทีมฟุตบอลชาติไทย ไม่ว่าจะชุดใหญ่ ชุดเล็ก หรือชุดรองอย่าง ซีเกมส์ จึงไร้ซึ่งความสำเร็จ

คุณวรวีร์ จึงมิอาจปฏิเสธได้ว่า ณ เวลานี้ แฟนบอลทุกคนต้องการความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ฟุตบอลไทยดีขึ้น โดยเฉพาะทีมชาติที่ถือเป็นสินค้าพรีเมียม

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จึงมีงานเสวนา "จุดเปลี่ยนฟุตบอลไทย" ซึ่งจัดโดย FM.99 คลื่นเมืองไทยแข็งแรง ที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น 6 อาคารปฏิบัติการ บมจ.อสมท.

พระเอกของงานนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณวรวีร์ ที่มาร่วมเปิดอกพูดคุยและไขข้อปัญหากับผู้ร่วมเสวนาระดับหัวกะทิอย่าง "บิ๊กแป๊ะ" ถิรชัย วุฒิธรรม ประธานพัฒนาเทคนิคฟุตซอลแห่งชาติ, คุณอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี, "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ, "หมอเมา" ท.พ.พิชัย ปิตุวงศ์ และตัวแทนสื่อ "บับเบิ้ล" ยิ่งรักษ์ รักษ์สุวรรณ

เกือบ 3 ชั่วโมงในการเสวนาที่ผมได้เข้าไปนั่งฟัง แต่ละคนได้แสดงความคิดความเห็นและปัญหาของฟุตบอลไทยภายใต้การบริหารงานของ คุณวรวีร์ ที่ควรทำและแก้ไข

ในขณะที่ คุณวรวีร์ ก็พยายามตอบในเรื่องที่ตอบได้ และผ่านเลยไปในบ้างเรื่องด้วยเวลาที่จำกัด แต่เท่าที่ผมจับความได้ คุณวรวีร์ มักจะนำผลงานเก่าๆ สมัยอดีตมาเป็นจุดขายเหมือนการหาเสียงเพื่อขอนั่งเก้าอี้ต่ออีกสมัย

สุดท้าย ผมจึงสรุปเองว่า "จุดเปลี่ยนฟุตบอลไทย" คงต้องร้องเพลงรอกันต่อไป เพราะ คุณวรวีร์ ไม่เคยใส่ใจอะไรใครบนเวทีเลย

เรื่องโดย เอ็ม ฮอตสกอร์