คงเป็นเวรเป็นกรรมของทีมชาติไทย

คงเป็นเวรเป็นกรรมของทีมชาติไทย

คงเป็นเวรเป็นกรรมของทีมชาติไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถึงเวลาอีกครั้งที่แฟนบอลชาวไทยจะต้องมารวมใจ เพื่อส่งแรงใจแรงเชียร์ไปให้ทีมชาติไทยของเราในศึกฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2015 รอบนัดเลือก นัดที่ 2 ซึ่งเราจะต้องยกพลไปเยือนเลบานอน ในวันที่ 22 มี.ค.นี้

สำหรับทีมชาติไทย ณ เวลานี้ก็เก็บตัวกันอยู่ที่กาตาร์ เพื่อเตรียมลงทำการอุ่นเครื่องกับเจ้าภาพฟุตบอลโลก ปี 2022 ในวันอาทิตย์ ที่ 22 มี.ค.นี้ และหลังจากนั้นก็จะเดินทางเข้าประเทศเลบานอน เพื่อลงทำการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 22 มี.ค.ต่อไป
 
ดูจากแผนการเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทยในครั้งนี้จะวางแผนและประสานงานมาเป้นอย่างดี เพราะมีเวลาเดินทางไปเก็บตัวก่อนถึงร่วมๆ 1 สัปดาห์ แถมยังมีโปรแกรมอุ่นเครื่องให้ด้วยอีก 1 นัด
 
แต่ถึงอย่างไรก็ตามทีมชาติไทยชุดนี้ก็ยังไม่วายที่จะต้องเจอปัญหาในการเตรียมทีมพอสมควร โดยปัญหาในครั้งนี้ก็คือเรื่องของนักเตะถอนตัวจากทีมชาติไทย จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องปกติที่นักเตะหากมีอาการบาดเจ็บก็คงจะต้องขอถอนตัวจากทีมชาติไทย เพียงแต่ว่าที่ผ่านมามันมีประแสที่ไม่ดีกับทีมชาติไทยในเรื่องนี้ไม่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อใครถอนตัวจากทีมชาติก็จะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์กันไปตามระเบียบ
 
ทีมชุดนี้มีนักเตะหลายๆ คนที่ต้องขอถอนตัวจากทีมชาติไทย ซึ่งล้วนแต่เป็นนักเตะคนสำคัญและเป็นตัวหลักทั้งนั้น ตั้งแต่ ชลทิตย์ จันทคาม,อดุล หละโสะ 2 นักเตะจากค่ายฉลามชล ภานุพงษ์ วงศ์ษา จากเมืองทองฯ ที่แต่แรกจะถอนแล้วเปลี่ยนใจจะตามไปสมทบทีหลัง สุดท้ายก็ต้องถอนเพราะหายไม่ทัน
 
นอกจากนี้ยังมี สุรีย์ สุขะ จาบุรีรัมย์ ที่ก็เจ็บ อภิภู สุนทรพนาเวศ จากโอสถสภาฯ และ คนสุดท้ายคือ สุมัญญา ปุริสาย จากชัยนาท เอฟซี โดยทั้งหมดมีเหตุผลเดียวกันคือเจ็บ เจ็บ เจ็บ และก็เจ็บ
 
แต่เราเองก็คงต้องเข้าใจนักเตะ และสโมสรเองด้วยเหมือนกัน หากนักเตะมีอาการบาดเจ็บจริงมันก็คงไม่มีใครอยากเสี่ยงส่งตัวเองหรือนักเตะของตัวเองไปเก็บเพิ่มแน่นอน ประเด็นก็คือมันดันมาเจ็บพอดีกับที่ทีมชาติมีโปรแกรมพอดี และเป็นโปรแกรมสำคัญด้วย ไม่ใช่เกมอุ่นเครื่องต๊อกต๋อยธรรมดาๆ
 
สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป้นเพราะช่วงเวลาที่มาบรรจบพอเหมาะพอดี และจะว่าไปก็คงเป็นเวรกรรมของทีมชาติไทยที่ต้องรับไปเต็มๆ โดยไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้
 
สำหรับนักเตะชุดนี้จะว่าไปก็ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือเกมรับที่เราขาดคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟตัวจริงไปทั้ง 2 คน คือ ภานุพงษ์ และ ชลทิตย์ ซึ่งถือเป็นตัวจริงมาโดยตลอด ส่วนที่เหลือก็ถือว่าใหม่ถอดด้ามทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ที่แม้จะโชว์ผลงานได้ดีกับเทโรฯ แต่ในทีมชาติก็ถือว่าประสบการณ์ยังน้อย อาทิตย์ ดาวสว่าง ก็เช่นเดียวกัน หรือจะเป็นประหยัด บุญญา ที่เรื่องประสบการณ์ในชีวิตค้าแข่งไม่ต้องพูดถึง แต่ประสบการณ์สำหรับเกมระดับชาติก็ยังน้อยอยู่ ดังนั้นแนวรับขึงค่อนข้างน่าเป็นห่วง
 
อย่างไรก็ตามในทีมชุดนี้ก็ยังพอมีสิ่งดีๆ ที่มำให้เราได้ลุ้นกันบ้าง นั่นก็คือการเปลี่ยนแปลงเรื่องตัวนักเตะในแผงมิดฟิลด์ ที่เราได้ทั้ง ชาริล ชัปปุยส์ ลูกครึ่งไทย สวิตฯ และ แอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงศ์ ลูกครึ่งไทยมะกัน 2 ลูกครึ่งจากบุรีรัมยื ยูไนเต็ด เข้ามาเสริมทัพในทีมชุดนี้ น่าจะพอทำให้เห็นอะไรใหม่ๆ ในทีมชาติไทยบ้าง
 
เกมกับเลบานอนถือเป็นศึกที่ใหญ่หลวงนัก การจะเก็บชัยชนะในรอบคัดเลือกนั้น ดูแล้วก็เป็นเกมกับเลบานอนนี่แหล่ะ ที่ดูแล้วเรามีโอกาสเก็บชัยชนะได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับคูเวต และ อิหร่าน เพื่อนร่วมสายเดียวกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราจะมีแต้มกลับมาหรือเปล่าคงต้องเอาใจช่วยกันในวันที่ 22 มี.ค.นี้


 
เรื่องโดย : กังนัมสไตน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook