เจาะลึก 5 ประเด็น หลังแมตช์ ฝรั่งเศส เฉือนหวิว เปรู 1-0

ผลบอลโลก2018 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดที่ 2

ฝรั่งเศส 1-0 เปรู

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2561 

สนาม : เยคาเทรินบูร์ก อารีน่า

5. เวทีสู่ยุโรปของ อัดบินคูลา

JORGE GUERRERO/GettyImages

กลายเป็นอาวุธลับของ เปรู กับตำแหน่งแบ็คขวาของ หลุยส์ อัดบินคูลา เมื่อแผลงฤทธิ์เติมเกมรุกได้อย่างมันส์สะเด่าจนเรียกใบเหลืองให้กับ แบล็ส มาตุยดี ตั้งแต่ต้นเกม

 อัดบินคูลา มีทั้งความแข็งแกร่งและรวดเร็ว รวมทั้งยังไปกับบอลได้ดีแถมวิ่งไม่มีหมด การันตีได้เลยว่าฝีเท้าของเขาน่าจะเตะตายักษ์ใหญ่ ยุโรป ได้ไม่มากก็น้อยเมื่อเจ้าตัวมีสัญญาค้าแข้งอยู่กับ ติเกรส ในลีก เม็กซิโก

4. จุดอ่อนในการวางหมากของ เดส์ชองส์

FRANCK FIFE/GettyImages

แฟนบอลหลายคนต้องเลิกคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อเห็นผังการยืนตำแหน่งเป็น แบล็ส มาตุยดี ประจำการที่กองกลางริมเส้นฝั่งซ้าย ดูท่า ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ น่าจะรู้ซึ้งถึงพิษสงความแข็งแกร่งของแบ็คขวา เปรู เป็นอย่างดีจึงจัด มาตุยดี มารับมือ แต่การณ์กลับไม่เป็นไปอย่างที่คาด

มาตุยดี เสียท่า อัดบินคูลา ตั้งแต่ต้นเกม และมันทำให้เราคิดว่าจะดีกว่านี้หรือไม่หากเขาตัดสินใจส่งผู้เล่นตัวรุกธรรมชาติลงมายืนแทน มาตุยดี ที่ฝั่งซ้าย

 ทัพตราไก่ มีตัวเลือกทั้ง อุสมาน เดมเบเล ที่เต็มไปด้วยเทคนิคแพรวพราว, โตมาส์ เลอมาร์ ที่ไว้วางใจได้ในการครองบอล กระทั่ง ฟลอริย็อง โตแว็ง ที่โดดเด่นในเกมรุกมากกว่า มาตุยดี

 หรือว่านายใหญ่ เลส์ เบลอส์ ไม่คิดว่าทีมที่เต็มไปด้วยสตาร์ของพวกเขาจะสามารถครองบอลบดเข้าใส่ทีมอย่าง เปรู ได้ตั้งแต่แรกจนต้องใช้ริมเส้นฝั่งซ้ายเพื่อเกมรับเน้นๆ แบบนี้กันแน่ ? พาลให้คิดต่อไปถึงกึ๋นของ เดส์ชองส์ ว่ามีอยู่ในตัวมากน้อยแค่ไหนกับฟุตบอลระดับนี้

3. การตกรอบอย่างน่าประทับใจของ เปรู

ANNE-CHRISTINE POUJOULAT/GettyImages

ความพ่ายแพ้ในรอบแบ่งกลุ่มสองเกมติดต่อกันอาจถูกมองว่าเป็นความล้มเหลวสำหรับหลายทีม แต่กับ เปรู แล้วต้องบอกว่ามันไม่น่าผิดหวังเลย

 ฟุตบอลของ เปรู ทำให้เรานั่งลุ้นด้วยความตื่นเต้นไปกับพวกเขา เกมรุกที่เต็มไปด้วยความรวดเร็วของนักเตะแทบทุกคน การเคลื่อนที่อันไหลลื่น และขุนพนลอินคาทุกรายล้วนแล้วต่อมีทักษะการครองบอลอย่างยอดเยี่ยมตามสไตล์ฟุตบอลจาก อเมริกาใต้

 หากแต่สิ่งเดียวที่พวกเขาขาดไปดูจะมีเพียงความเฉียบคมในการจบสกอร์แค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ทำให้ไปไม่สามารถผ่าด่านรอบแบ่งกลุ่มเข้าไปได้

2. สองเฟรนช์แมน ผู้ปิดทองหลังพระ

KIRILL KUDRYAVTSEV/GettyImages

โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ถูกมองว่าเป็นตัวโจ๊กสำหรับทีมเมื่อเขาถูกเรียกตัวมาเล่นกับทีมชาติชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2018 ท่ามกลางแดนหน้าระดับพระกาฬและเด็กหนุ่มตัวจี๊ดหลายคน ใช่ - ชิรูด์ อาจไม่ใช่ศูนย์หน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก แต่เมื่อพิจารณาจากการประสานงานของเขากับเพื่อนร่วมทีม ตราไก่ ชุดนี้ มันคือส่วนผสมที่ลงตัวในแดนหน้า ความแข็งแกร่งของเขาช่วยพักบอลให้กับบรรดาตัวรุกรอบจัดได้เล่นต่อได้สบายหลายๆ ครั้งและมีส่วนในการดึงกองหลังของคู่ต่อสู้ให้พะวงอยู่กับตัวเขาจนเปิดพื้นที่ให้แข้ง ตราไก่ รายอื่นเข้าทำ

 เช่นเดียวกับ ป็อกบา ที่ถูกค่อนขอดถึงพฤติกรรมนอกสนามอยู่บ่อยๆ ทว่าดาวเตะ ปีศาจแดง รายนี้กลายเป็นแข้งคีย์แมนที่พา เลส์ เบลอส์ คว้าชัยได้ทั้งสองนัดใน เวิลด์คัพ ครั้งนี้ ทั้งจังหวะทำประตูชัยในนัดแรกกับ ออสเตรเลีย และการผ่านบอลคิลเลอร์พาสอันนำไปสู่ประตูของ เอ็มบัปเป้ กับ เปรู นับรวมการเอาชนะในการเข้าปะทะในจังหวะสำคัญได้อีกหลายครั้ง

 ชิรูด์ กับ ป็อกบา อาจจะไม่ได้รับเครดิตมากพอในทีมชาติ ฝรั่งเศส ชุดนี้เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขาคือส่วนสำคัญกับทัพ ตราไก่ ในการพาทีมการันตีผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์เป็นลำดับต่อไป

1. เอ็มบัปเป้ แจ้งเกิดเต็มตัว

ANNE-CHRISTINE POUJOULAT/GettyImages

เราได้เห็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเด็กหนุ่มวัย 19 ปีรายนี้เมื่อเกมผ่านไปได้ราวครึ่งชั่วโมงกว่าๆ บอลจาก ป็อกบา แทงให้ กรีซมันน์ หลุดเข้าไปยิงแฉลบกองหลัง เปรู ก่อนที่ เอ็มบัปเป้ จะวิ่งเข้าไปซ้ำใส่ตาข่ายโล่งๆ

 สตาร์วัยกระเตาะที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในทัวร์นาเมนต์นี้โชว์ฟอร์มโดดเด่นได้อย่างเกินวัย ไม่ว่าจะเป็นทักษะ เทคนิคอันยอดเยี่ยม ไหวพริบ และความมั่นใจที่เกินตัวไปมากโข เจ้าตัวได้รับการคาดการณ์ว่าจะกลายเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตของ ฝรั่งเศส มาได้สักระยะหนึ่ง

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า เอ็มบัปเป้ จะแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ได้แล้วนับตั้งแต่ตอนนี้โดยไม่ต้องเสียเวลารออะไรทั้งนั้น!