ที่นี่โคตรเจ๋ง! เผยเหตุผลหลักที่ "เอ็ดดี้ อัลบาเรซ" เซ็นสัญญากับ ONE CHAMPIONSHIP

ที่นี่โคตรเจ๋ง! เผยเหตุผลหลักที่ "เอ็ดดี้ อัลบาเรซ" เซ็นสัญญากับ ONE CHAMPIONSHIP

ที่นี่โคตรเจ๋ง! เผยเหตุผลหลักที่ "เอ็ดดี้ อัลบาเรซ" เซ็นสัญญากับ ONE CHAMPIONSHIP
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานใหญ่ของ ONE CHAMPIONSHIP ได้ประกาศข่าวใหญ่สะเทือนวงการ ถึงการเซ็นสัญญาเข้าร่วมแข่งขันของ เอ็ดดี้ อัลบาเรซ ("The Underground King" Eddie Alvarez)

สำหรับ อัลบาเรซ ถือเป็นหนึ่งในนักกีฬาศิลปะป้องกันตัวแบบผสมผสานชื่อดังของโลก เขาเพิ่งจะเสียตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นไลต์เวตไปได้เพียงแค่สองปีเท่านั้น แต่ก็ถือว่าตัวเขายังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม ล่าสุด อัลบาเรซตัดสินใจครั้งใหญ่ในอาชีพ ด้วยการเข้าร่วมกับ ONE Championship องค์กรศิลปะป้องกันตัวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปเอเชียเป็นที่เรียบร้อย

แต่การย้ายข้ามซีกโลกมายังเอเชียของอัลบาเรซก็ก่อให้เกิดคำถามขึ้นว่าทำไมเขาจึงตัดสินใจเช่นนั้น?

ถ้ามองถึงเหตุผลในการย้ายฝั่งครั้งนี้ แน่นอนว่าเรื่องรายละเอียดสัญญาต้องถูกเก็บเป็นความลับ แต่ถ้าพินิจพิเคราะห์ให้ดีก็จะได้เหตุผลหลายข้อเช่นกันถึงการตัดสินใจเลือก ONE Championship ของเขา และมีความเป็นไปได้ที่นักกีฬาคนอื่นๆที่ยังไม่มีสังกัด อาจย้ายตามเขาเข้ามาอีกมากมาย

1) ONE Championship มีข้อเสนอที่ยอดเยี่ยม

ในแง่ของค่าจ้าง คุณอาจจะคิดว่าก่อนหน้านี้รายได้ของอัลบาเรซคงอยู่ในระดับท็อปอยู่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยกับสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ ONE Championship ในการดึงดูดยอดฝีมือรายนี้

สำหรับ ONE Championship คือองค์กรขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยนักกีฬาศิลปะป้องกันตัวดีกรีแชมป์มากมาย ที่นี่รวมนักกีฬาระดับแชมเปี้ยนถึง 94 คนในศาสตร์ศิลปะป้องกันตัวที่แตกต่างกันไว้ในองค์กรเดียว นั่นจึงทำให้ ONE Championship มีความหลากหลาย ทั้ง คิกบ็อกซิ่ง, มวยไทย, ซับมิสชั่น และ อื่นๆอีกเพียบ

โดยบรรดานักกีฬาระดับโลกที่อยู่ในสังกัดตอนนี้ ยกตัวอย่างเช่น จิออร์จิโอ เปโตรเซียน (Giorgio Petrosyan), ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ และ น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนล้วนยังอยู่ในฟอร์มที่สุดยอด นั่นจึงแสดงให้เห็นว่า ONE Championship มีความมั่นคงทางการเงินอย่างยิ่งยวดในการดึงดูดพวกเขา

"ผมเชื่อในข้อเสนอของ ONE มันดีเกินกว่าที่จะปฏิเสธได้จริงๆ" อัลบาเรซกล่าวในงานสัมภาษณ์สื่อมวลชนทางโทรศัพท์

"ทาง UFC ทำได้ดีด้านเฉลี่ยค่าเหนื่อยของนักกีฬาในสังกัด ผมคิดว่าทาง UFC ก็มีวิธีการที่ดีของเขา พวกเขาพยายามรั้งผมไว้เหมือนกันนะ แต่พวกเขาเน้นรูปแบบทางธุรกิจเป็นหลัก พวกเขาจ่ายเงินจำนวนหนึ่งสำหรับนักสู้บางคนด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งแต่ละคนก็เป็นกรณีที่แตกต่างกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือผิดอะไร แค่พวกเขาคิดถึงเรื่องธุรกิจเป็นอย่างแรกเสมอเท่านั้นเอง"

"แต่สำหรับ ONE มีมุมมองต่อผมที่ต่างไป ที่นี่คิดถึงครอบครัวผมด้วย พวกเขาเข้าใจว่าผมต้องการและปรารถนาสิ่งใดมากที่สุด"

นอกจากนี้ ถ้าให้เจาะจงถึงนักกีฬาศิลปะป้องกันตัวโดยเฉพาะ ทาง ONE ก็ยังมีแชมป์อย่าง บิเบียโน่ เฟอร์นันเดส (Bibiano Fernandes) จากบราซิล, แองเจล่า ลี (Angela Lee) จากสิงคโปร์ และ แบรนดอน เวร่า จากฟิลิปปินส์ รวมไปถึงตำนานอีก 2-3 คน ได้แก่ เรนโซ่ (Renzo) และ ราล์ฟ เกรซี่ (Ralph Gracie)

นอกจากนี้ บรรดาผู้สนับสนุนและนักลงทุนชื่อดังอีกหลายเจ้าต่างเป็นส่วนหนึ่งของ ONE Championship เช่น Sequoia Capital ที่เพิ่งประกาศยอดจากรการะดมทุนระดับซีรี่ส์ ดี ซึ่งได้เงินเป็นจำนวนสูงถึง 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯเลยทีเดียว

ดังนั้นจึงพูดได้ว่า ทาง ONE Championships เองสามารถจ่ายค่าจ้างให้อัลบาเรซได้สบายๆ รวมไปถึงดึงดูดเหล่านักกีฬาพรสวรรค์อีกหลายคนให้ความสนใจเข้ามาร่วมแข่ง
ขันในอนาคตด้วย

2) เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักระดับโลก

ถ้าในซีกโลกฝั่งตะวันตก ONE Championship อาจยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่ถ้าเป็นโลกฝั่งตะวันออก ONE Championship คือองค์กรศิลปะป้องกันตัวระดับยักษ์ใหญ่ของทวีปเอเชีย เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมศิลปะป้องกันตัว เป็นหนึ่งในสององค์กรเท่านั้นที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ถ้าคุณคิดว่าอัลบาเรซย้ายมาแข่งขันในเอเชีย แล้วคุณจะติดตามผลงานเขาได้ยากขึ้น นั่นคือความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะในปัจจุบัน ONE Championship มีการถ่ายทอดสดออกสู่สายตาผู้ชมมากถึง 1.7 พันล้านคนใน 138 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทเพิ่งได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่น ONE Super App ซึ่งจะทำให้คุณรับชมการแข่งขันผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้ฟรีๆอีกต่างหาก

อย่างล่าสุดในศึก ONE: Kingdom of Heroes ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามียอดผู้ชมมากกว่า 25 ล้านคน ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการเข้าถึงได้ง่ายมากของ ONE Championship ในโลกยุคปัจจุบัน และจะเติบโตขึ้นไปอีกอย่างไม่หยุดยั้ง

ในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้กับนิตยสารฟอร์บส์ คุณชาตรียังได้พูดถึงการทำข้อตกลงกับ U.S. TV ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังรุดหน้าไปด้วยดีและเป็นไปได้ที่ ONE Championship จะเข้าไปตีตลาดที่นั่น

"ภายในปีนี้แหละ คุณจะได้ทราบว่าข้อตกลงของเรากับ U.S. TV จะจบอย่างไร" คุณชาตรีกล่าวกับฟอร์บส์ "เรากำลังหารือกับทีมถ่ายทอดสดหลายรายในสหรัฐอเมริกาและใกล้แล้วสำหรับการเซ็นสัญญา"

ONE Championship มีการเจริญเติบโตในอัตราที่รวดเร็วมาก และไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนกำลังลงในอนาคตอันใกล้นี้เลย

slide

3) องค์กรกีฬาที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

การเติบโตของ ONE Championship ถูกรวบรวมข้อมูลได้จากบริษัท Nielsen, เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ ซึ่งแฟนๆต่างรู้จักมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ด้วยการเติบโตครั้งใหญ่ของจำนวนผู้ชมและการเข้าถึงได้ทั้งทางสื่อดั้งเดิมและสื่อดิจิทัล ทำให้ ONE Championship กลายเป็นอุตสาหกรรมองค์กรกีฬาที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก

จากผลสำรวจเมื่อเดือนกันยายน 2018 ที่จัดทำขึ้นโดย Nielsen ทาง ONE Championship มียอดผู้ชมทางโทรทัศน์ถึงจุดพีกเพิ่มมากถึง 58 ครั้งภายในปีเดียว กับตารางการแข่งขันแน่นเอี๊ยด 24 ครั้งในปีปฏิทิน ในเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วทวีปเอเชีย นอกจากนี้ช่วงเวลาถ่ายทอดสดยังเพิ่มมากขึ้นจาก 12-18 ชั่วโมงในปี 2014 เป็น 100-2,800 ชั่วโมงในปี 2018 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดมากถึง 233 เท่าภายในระยะเวลาแค่สี่ปีเท่านั้น

สำหรับตัวเลขทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า ONE Championship ใช้ประโยชน์ในยุคดิจิทัลเพื่อขยายการเติบโตในทุกภาคส่วนได้สำเร็จ โดยเฉพาะการเน้นที่สื่อสังคมออนไลน์และอินเทอร์เน็ต

จึงพูดได้ว่าสำหรับอัลบาเรซนั้น การเข้าร่วม ONE Championship ถือเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดอย่างที่สุด

4) โอกาสพิสูจน์ตัวเองในเวทีเอเชีย

การตัดสินใจเข้าร่วม ONE Championship ของอัลบาเรซยังเป็นเพราะเหตุผลส่วนตัวบางอย่างของเขาด้วย

"ถ้าปราศจากรายละเอียดเล็กน้อย อะไรอาจเปลี่ยนไป เราได้รับข้อเสนอจากทั่วทุกมุมโลก แต่ผมคิดว่าแนวคิดของ ONE Championship นั้นไม่เหมือนใคร ที่นี่เป็นมากกว่าองค์กร อีกอย่างคือ ONE Championship คือสถาบันใหญ่แห่งเดียวที่ผมยังไม่เคยคว้าแชมป์" อัลบาเรซกล่าว

"ผมเคยเป็นแชมป์รายการ Bellator สองครั้ง นอกจากนี้ยังเคยเป็นแชมป์ของ UFC มาด้วย นั่นจึงทำให้ ONE Championship คือรายการใหญ่หนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ซึ่งผมยังไม่เคยสัมผัสเข็มขัดแชมป์"

"ผมคิดถึงตัวเอง, ครอบครัว, แฟนคลับ รวมถึงทุกคน นี่เป็นโอกาสในการสร้างประวัติศาสตร์ของผมเอง ผมมีประสบการณ์ 20 ปีก่อนเข้ามาสู่องค์กรนี้ ผมคงรู้สึกเหมือน
ถูกล็อตเตอรี่เลยแหละถ้าได้แชมป์ที่นี่"

"แต่ก็เหมือนเคย ในการเข้าสู่รายการใหญ่แบบนี้ คุณต้องได้เจอนักกีฬาระดับสุดยอดของโลก ต้องดวลกับพวกเขาเหล่านั้นทีละคนเพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่ง และท้ายที่สุดถึงจะได้เป็นแชมป์"

ด้าน ONE Championship เองล้วนมีแต่นักกีฬาระดับโลกที่ต่างมีแฟนคลับหนาแน่นและเป็นที่รุ้จักกันดี ดาวเด่นอย่าง เอดูอาร์ด โฟลายัง (Eduard Folayang) ของฟิลิปปินส์, มาร์ติน เหงียน (Martin Nguyen) จากออสเตรเลีย ถือเป็นยอดฝีมือตัวท็อปในพิกัดรุ่นไลต์เวตเดียวกับอัลบาเรซ และมีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกเขาจะได้ดวลกันให้สมใจแฟนๆ

แต่อย่างไรก็ดี อย่างที่อัลบาเรซ วัย 34 ปีได้ประกาศก้องชัดเจนแล้วว่า การเข้าร่วมแข่งขันใน ONE Championship นั้น เขามีภารกิจเพียงหนึ่งเดียวคือการเป็นแชมป์โลกสถาบันใหญ่แห่งที่สามของตัวเองให้จงได้!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook