โรนัลโด้ (R9) ตัด ซาโมราโน่ (1+8) : พระเอกมีได้แค่คนเดียว?

โรนัลโด้ (R9) ตัด ซาโมราโน่ (1+8) : พระเอกมีได้แค่คนเดียว?

โรนัลโด้ (R9) ตัด ซาโมราโน่ (1+8) : พระเอกมีได้แค่คนเดียว?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โลกฟุตบอลมีเรื่องคลาสสิกเกิดขึ้นมากมายในทุกๆ ปี ถ้าพูดถึงใบเเดงนัดชิงเราก็จะนึกถึงเฮดบัตต์ของ ซีเนดีน ซีดาน ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006, ผู้รักษาประตูเหวอนัดชิงดำคงหนีไม่พ้นช็อตเหวอ 2 ครั้งซ้อนของ ลอริส คาริอุส ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2018, พลิกนรกใน 45 นาทีเราก็นึกถึง ลิเวอร์พูล ในรอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2005 ทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมาคือเรื่องที่คอลูกหนังทุกคนจำมันได้ดี และเชื่อว่าแทบทุกคนคงเคยเห็นมานักต่อนัก

ทว่าเรื่องที่เราจะพูดถึงในวันนี้คือเรื่องของ "การแย่งเบอร์เสื้อ" ซึ่งหากจั่วหัวประเด็นนี้คงไม่มีเรื่องใดจะน่าสนใจไปมากกว่าตำนานหมายเลขเสื้อ 1+8 ของ อิวาน ซาโมราโน่ สมัยเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน อีกเเล้ว ...

ในช่วงที่ดีที่สุด ซาโมราโน่ ไม่เป็นสองรองใครสำหรับตำแหน่งดาวยิงหมายเลข 9 เขาไม่เลี้ยงบอลมากมาย ไม่มีสเต็ปเท้าที่รวดเร็ว เพียงแต่หากปล่อยให้เขาอยู่ในกรอบเขตโทษและมีพื้นที่เพียงนิดเดียวเขาจะจัดการฝังคุณจากการยิงได้ในทุกรูปแบบไม่ว่าจะ เท้าซ้าย, เท้าขวา และ การโหม่งประตู


หากใครที่ไม่เคยเห็นเขาเล่นมาก่อน อาจจะฟังดูเหมือนเว่อร์ แต่กับ 3 สโมสรก่อนหน้าที่เขาจะมาอยู่กับ อินเตอร์ (เซนต์ กัลเลน,เซบีย่า และ เรอัล มาดริด) ค่าเฉลี่ยในการยิงประตูของเขานั้นช่างยอดเยี่ยม ทุกๆ 2 เกม ซาโมราโน่ จะยิงประตูได้เสมอ นี่ยังไม่ย้อนไปถึงตอนที่เล่นในอเมริกาใต้ที่เขายิงประตูสูสีจำนวนเกมที่ลงสนามเลยทีเดียว

และต่อจากนี้เรากำลังจะเล่าถึงวันที่เขาเสียตำแหน่งดาวยิงให้กับผู้มาใหม่ ว่ากันว่าการมาของ โรนัลโด้ คือคนที่ทำให้เกิดเรื่องการเปลี่ยนเบอร์เสื้อสุดอลวนนี้…

แต่ความจริงมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่านั้น ใครกันแน่ที่ทำให้ฮีโร่คนเก่าดาวยิงเบอร์ 9 อย่าง "แบม แบม" ต้องยอมสละเบอร์แห่งดาวยิง และหาเบอร์ใหม่ใส่แบบกระทบ 2-3 ชิ่งจนมาลงเอยที่เบอรฺ์ 1+8 นี้...ติดตามเรื่องราวทั้งหมดกับ Main Stand ได้ที่นี่

น้องใหม่...ใหญ่คับทีม?
ย้อนไปเมื่อปี 1996 โรนัลโด้ คือดีลซูเปอร์คุ้มของ บาร์เซโลน่า เพราะในตอนที่ดึงตัวมาจาก พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น เขาคือนักเตะอายุเพียง 20 ปี แต่กลับถูกขนานนามว่าเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลก ณ เวลานั้น ทว่ายิ่งเก่งกลับยิ่งมีปัญหา เขาถือแต้มต่อเยอะและทาง บาร์ซ่า ก็เหมือนจะไม่อยากเสียเหลี่ยมให้นักเตะคนใดใหญ่กว่าทีม

zammzam2
ตลอดเวลากับ บาร์เซโลน่า เอเย่นต์ของ โรนัลโด้ พยายามจะพูดคุยเกี่ยวกับการต่อสัญญาใหม่ตลอดเวลา ด้าน บาร์เซโลน่า ก็ออกมาประกาศชัดเจนว่า "เขาจะเป็นของเราไปตลอดชีวิต" โดยคาดกันว่าจะมีการต่อสัญญาฉบับใหม่ยาวออกไปถึง 9 ปี ขณะที่ โรนัลโด้ จะได้ค่าตอบแทนปีละ 2.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

แต่เพียงแค่วันต่อมา เรื่องราวก็พลิกกลับตาลปัตรราวกับดึงเบรกมือยูเทิร์น 180 องศา แถมยังมีรายงานว่าสิ่งต่างๆ ที่ประกาศกันใหญ่โตเกิดขึ้นเพราะเอเย่นต์ของโรนัลโด้ที่พยายามจะเล่นสงครามจิตวิทยากับบอร์ดบริหาร

"ทุกสิ่งที่ นูเญซ (ประธานสโมสร) บอกมามีเเต่เรื่องโกหก เราไม่เคยได้เจรจาเรื่องสัญญากับพวกเขาเลย" โรนัลโด้ เองก็โบ้ยว่าฝั่งเขาก็ไม่ได้รับอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน "เขาบอกอย่างหนึ่งและคุยกับเอเย่นต์ของผมอีกอย่างหนึ่ง เขาโกงเรามา 7 เดือนและมันเป็นเรื่องน่าเศร้า" “อิล เฟโนเมโน่” ให้สัมภาษณ์ย้อนไปในความเจ็บปวดกับปีที่เขาเป็นทุกอย่างให้ บาร์เซโลน่า แต่ข้อตกลงทั้งหมดกลับถูกเปลี่ยนแปลง

จังหวะนั้น อินเตอร์ มิลาน ที่มี มัสซิโม่ โมรัตติ เป็นนายหัวสบช่องมองเห็นโอกาสมากมายกับความระส่ำระสายที่ คาตาลัน เขารู้แน่ว่าหากใช้ทุกไม้ตายมาโน้มน้าวให้ โรนัลโด้ ย้ายมาอยู่กับ อินเตอร์ ได้ โอกาสที่ทีมจะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนยุค 1960 ก็เพียงแค่เอื้อม

"ไม่มีใครคิดว่าการดึงเขาออกจากอ้อมอกของ บาร์เซโลน่า จะเกิดขึ้นได้ นอกจากผมคนเดียวเท่านั้น" โมรัตติ เล่าถึงเหตุการซื้อตัวโลกตะลึงในเวลานั้น "เขามีปัญหากับ บาร์เซโลน่า ผมจึงมุ่งหน้าไปเจรจาเรื่องนี้ที่ ปาดัว พร้อมกับ จิโอวานนี่ บรังชินนี่ เพื่อปิดจ็อบของเรา"

zammzam3
ทุกอย่างที่ โมรัตติ ให้การไว้ตรงกับสิ่งที่ โรนัลโด้ บอกเป๊ะ นั่นจึงทำให้เช้าวันที่ 20 มิถุนายน 1997  สโมสร อินเตอร์ เปิดงานแถลงข่าวใหญ่โตด้วยการคว้าตัวโรนัลโด้ มาจาก บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวสถิติโลก 27 ล้านยูโร

สิ่งที่ตามมากับความดังกระหึ่มในการเปิดตัวนอกจากคุณภาพที่ดาวยิงวัยรุ่นผู้นี้มี คือเรื่องการตลาดนอกสนาม อินเตอร์ กลายเป็นทีมที่ดูหรูหราราคาแพงขึ้นมาชัดเจน ณ เวลานั้น เซเรีย อา กำลังครองโลก ในขณะที่ ยูเวนตุส มี อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ และ ซีดาน, มิลาน มี พาทริก ไคลเวิร์ต ดังนั้น อินเตอร์ ก็จำเป็นต้องซื้อ โรนัลโด้ เพื่อแสดงจุดยืนว่าพวกเขาเอาจริงมากแค่ไหน ขณะที่ โมรัตติ ก็สนิทสนมเอาใจดาวยิงคนใหม่เป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตามซอกหลืบอีกมุมหนึ่ง ฮีโร่คนเก่าชาวชิลีก็ต้องยอมรับสถานะตัวเองอยู่กลายๆ ว่ากำลังถูกคลื่นลูกใหม่ไล่ซัด เขาคนนั้นคือ อิวาน ซาโมราโน่ ซึ่งกำลังอายุเข้าเลข 3 พอดิบพอดี

พระเอกโดนแย่งซีน
โรนัลโด้ เลือกเสื้อหมายเลข 10 ในปีแรกกับ เนรัซซูรี่ เขาไม่ปล่อยให้ใครติฉินว่าได้สิทธิพิเศษจากทีม โดยแสดงออกทันทีว่าเขาเก่งจริง ต่อให้เปลี่ยนสนาม เปลี่ยนลีก เปลี่ยนทีม เขาก็ยังเห็นการยิงประตูเป็นเหมือนของหวานอยู่ดี

เขายิงไป 34 ลูกตลอดทั้งฤดูกาลและพา อินเตอร์ คว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ขณะที่ ซาโมราโน่ ที่ในฤดูกาล 1997-98 ยังคงสวมเสื้อหมายเลข 9 อยู่ กลับมีสถิติการยิงประตูตลอดฤดูกาลเพียงแค่ 4 ประตูเท่านั้น จากที่เคยทำได้ 14 ประตูในปีที่เเล้ว ขณะที่โอกาสลงสนามของเขามีเพียง 20 เกม นับว่าหายไปแบบครึ่งต่อครึ่งเพราะในฤดูกาล 1996-97 เขาลงเล่นมากถึง 47 นัด เลยทีเดียว

zammzam4
หากบอกด้วยตัวเลขอาจจะยังไม่เห็นภาพ ช่วงเวลาก่อนที่ โรนัลโด้ จะมานอกจากหน้าที่ยิงประตูจะเป็นของ ซาโมราโน่ แล้ว เขายังเป็นพี่ใหญ่ในห้องเเต่งตัว ปลุกใจขับเคลื่อนเพื่อนๆ ในทีมไปข้างหน้าได้ นี่คือเรื่องที่แม้แต่คนเป็นโค้ชยังยอมซูฮก

"ผมยังจำได้ดี เขาเป็นเหมือนจิตวิญญาณของทีม" จิจี้ ซิโมนี่ กุนซือของ อินเตอร์ ในช่วงที่ซาโมราโน่คุมทัพอยู่กล่าว "ยังจำภาพที่เขาปลุกใจทุกคนในทีมก่อนลงสนามได้อยู่เลย การเเข่งขันแต่ละนัดเป็นเหมือนสงครามของเขา ไม่ใช่เรื่องของจิตใจอย่างเดียวนะ หมอนี่ยังเป็นนักเตะที่เก่งสุดๆ ไปเลย"

ว่าก็ว่าเถอะนอกจากจะเสียตำแหน่งในสนามเเล้ว ซาโมราโน่ ยังเสียตำแหน่งลูกรักของ โมรัตติ ให้กับ โรนัลโด้ ไปพร้อมๆ กันอีกด้วย

ครั้งหนึ่งย้อนกลับไปสัก 2 ปี โมรัตติ เองก็เคยทำกับ ซาโมราโน่ เหมือนกับที่เคยทำกับ โรนัลโด้ โดยเฉพาะในช่วงปี 1996 ช่วงที่ท่านประธานลงทุนเจรจาดีลแลกตัวระหว่าง โรแบร์โต้ คาร์ลอส แบ็คซ้ายที่อยู่กับ อินเตอร์ เพื่อแลกกับ ซาโมราโน่ ที่ตอนนั้นเล่นให้กับ เรอัล มาดริด จนมีเรื่องกับ ฮอร์เก้ บัลดาโน่ บอร์ดบริหารทีมชุดขาว

"ในปี 1996 ผมมีข้อเสนอเยอะมาก บาเยิร์น, โมนาโก, ยูเวนตุส และ แอตฯ มาดริด แต่หลังจากที่พบกับ โมรัตติ ผมรู้ทันทีว่าเจอทีมที่ใช่แล้ว เขาชวนผมมาอยู่กับอินเตอร์ด้วยตัวเองเลย" วันหวานๆ ของ ซาโมราโน่ และ โมรัตติ ก็เป็นเช่นนี้เอง

นักเตะจากละตินหลายคนไม่ค่อยชอบนักที่จะเป็นรองใคร พวกเขามีอีโก้สูงๆ กันทั้งนั้น แต่ไม่ใช่กับ ซาโมราโน่ เขาเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี เขาไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด โรนัลโด้ เลยแม้แต่น้อย และยังพูดถึงในแง่ของความยอดเยี่ยมของ โรนัลโด้ เสมอ

zammzam5
ทว่าในฤดูกาล 1998-99 โรนัลโด้ ก็เปลี่ยนจากที่เคยสวมเสื้อหมายเลข 10 ของ อินเตอร์ เป็นเบอร์ 9 ที่ ซาโมราโน่ ใส่มาตลอดไม่ว่าจะกับสโมสรไหนหรือในทีมชาติก็ตาม จุดนี้นี่เองที่ทำให้ใครต่อใครมโนกันไปไกลหลายลี้ "โรนัลโด้เอาจนได้สินะ" "โมรัตติ ตัดสินเเล้วว่าใครเป็นลูกรักเบอร์ 1" "ซาโมราโน่ กำลังประชดสโมสรด้วยการใส่เสื้อ 1+8 ฟางเส้นสุดท้ายขาดลงเเล้วแน่นอน" นี่คือสมมุติฐานที่โลกต่างวิพากษ์ถึงกรณีเปลี่ยนเบอร์เสื้อครั้งนี้

นี่ไม่ใช่เรื่องของ ซาโมราโน่ กับ โรนัลโด้ เลยแม้แต่น้อย มันมีบุคคลที่ 2, 3 และ 4 เข้ามาเอี่ยวด้วย

ไม่ต้องขอก็จะให้
ถ้าคุณคิดว่า โรนัลโด้ มาเพราะยิงประตูแบบระเบิดเถิดเทิงเเละพา อินเตอร์ คว้าแชมป์เพียงอย่างเดียวขอบอกว่าคุณพลาดเเล้วล่ะ!

ในช่วงก่อนที่จะได้ตัว โรนัลโด้ จาก บาร์เซโลน่า ในปี 1997 นั้น อินเตอร์ มิลาน เหลือสัญญาสปอนเซอร์ชุดแข่งจาก อัมโบร เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น นายหัวโมรัตติ จัดการทำในสิ่งที่แยบยลขึ้น โดยที่น้อยคนนักจะหยั่งถึงการเดินหมากของเขาครั้งนี้

"ผมบอกกับ ไนกี้ ว่าหากผมเอา โรนัลโด้ มาอยู่ในทีมได้ พวกเขาจะต้องมอบข้อเสนอก้อนโต แตกต่างจากที่ให้กับทีมอื่นสำหรับ อินเตอร์ มิลาน เท่านั้น" โมรัตติ เล่าถึงวิธีการเจรจาแบบ Like A Boss ในวันนั้น

ทาง ไนกี้ รับเดิมพันทันที พวกเขาไม่คิดว่า อินเตอร์ จะเอา โรนัลโด้ มาได้ … แต่ถ้าได้มาจริงๆ แล้วจะมีอะไรเสียหายล่ะ? ไนกี้ ก็จะได้ไปอยู่บนหน้าอกของนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก ซึ่งสวมสตั๊ดตรา Swoosh ตั้งแต่ตอนย้ายมาเล่นในยุโรปกับ PSV และถ้าไม่ได้พวกเขาก็จะกำไรไปอีก เพราะจะจ่ายค่าสนับสนุนให้ อินเตอร์ น้อยลง เรียกว่างานนี้ไนกี้มองตัวเองว่าเหลี่ยมไหนก็วิน ซึ่ง โมรัตติ เองเก็งข้อสอบถูกเป๊ะ ปลาใหญ่ฮุบเหยื่อของเขาเข้าเเล้ว

zammzam6
"พวกเขาไม่เชื่อผมหรอกถึงบอกตกลงในตอนแรก มันเป็นความตั้งใจของผมเอง เมื่อคุณซื้อสโมสรคุณย่อมฝันที่จะได้เห็นสิ่งพิเศษอะไรบางอย่าง เช่นสิ่งที่ผมกำลังทำ นั่นคือการซื้อ-ขายที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุด" โมรัตติ กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ก่อนฤดูกาล 1998-99 จะเริ่ม ไนกี้ ต้องจ่ายเงินก้อนโตกับการเป็นสปอนเซอร์ให้กับ อินเตอร์ อย่างเต็มตัว แต่ขนหน้าแข้งกลับไม่ร่วง เพราะพวกเขาเองก็ดีอกดีใจมากเมื่อการดีลกับ อินเตอร์ ทำให้พวกเขาจะได้สิทธิ์ในตัว โรนัลโด้ ทั้งในทีมชาติ (ไนกี้เป็นผู้สนับสนุนบราซิลตั้งแต่ปี 1997 ถึงปัจจุบัน) และในสโมสร ในเวลาเดียวกันอีกต่างหาก  

ทุกอย่างประดังประดาเข้ามาพร้อมกันหมด ในฟุตบอลโลกปี 1998 โรนัลโด้ ระเบิดฟอร์มจนโด่งดังคนรู้จักไปทั่ว ภาพหนุ่มหัวโล้นใส่เสื้อสีเหลืองหมายเลข 9 ติดตาคนทั้งโลกจากฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศสครั้งนั้น ดังนั้น ไนกี้ จึงมองการไกลด้วยการสร้างแบรนด์ให้กับ โรนัลโด้ นั่นคือ "R9" ซึ่งหมายความว่าการโปรโมตจะสมบูรณ์แบบก็ต่อเมื่อหอกชาวบราซิลได้ใส่เบอร์ 9 กับ อินเตอร์ ด้วย ... นั่นหมายถึงเสื้อของ ซาโมราโน่ นั่นเอง

เรื่องนี้เหนื่อยถึงมือ โมรัตติ ประธานสโมสรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะต้องรับบทบาทคนไปบอกกับ ซาโมราโน่ ว่าเสื้อเบอร์ 9 ของเขากำลังจะเป็นของ โรนัลโด้ ในฤดูกาลใหม่ ทว่าเมื่อ โมรัตติ เอ่ยปากได้ไม่ทันจบประโยค ซาโมราโน่ ทำให้ทุกคนผิดคาดหมด เพราะ "เอาไปสิ" คือสิ่งที่เจ้าตัวเอ่ย

"โรนัลโด้ คือปรากฎการณ์ที่แท้จริง ผมจำได้ว่าโมรัตติตัดสินใจจะเลือกเบอร์ 9 ให้กับ โรนัลโด้ หลังจากที่เขาแพ้ในรอบชิงฟุตบอลโลก 1998 ซึ่งผมไม่ติดใจอะไรเลยสำหรับเรื่องนี้" แบม แบม มีความเป็นมืออาชีพเต็ม 100 และเข้าใจโลกของฟุตบอลที่มีธุรกิจมาเกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้

zammzam7
"ผมเป็นคนเริ่มเรื่องนี้เอง โรนัลโด้ กลับมาจากฟุตบอลโลกปี 1998 และเขากำลังดังระเบิด ผมเลยตัดสินใจยกเสื้อหมายเลข 9 ให้กับเขาด้วยตัวเองนี่แหละ"

เขายกให้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง และทั้ง 2 คนยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนถึงทุกวันนี้ ...

ยัง! ยังไม่จบ การใส่ 1+8 ต้องมีอะไรมากกว่านั้น เพราะแค่โดนเเย่งเบอร์ 9 ไป ไม่น่าจะใช่ปัญหาเพราะ ซาโมราโน่ สามารถสลับไปใส่เบอร์ 10 ของโรนัลโด้ได้ และสำหรับนักเตะอเมริกาใต้เสื้อเบอร์ 10 ก็เท่ไม่หยอกเลยทีเดียว ดาวยิงชาวชิลีกำลังจะเลือกเบอร์ 10 อยู่แล้วแท้ๆ สุดท้ายก็มีเรื่องให้ปวดหัวจนได้

zammzam7000
จบเรื่องด้วย 1+8
เสื้อเบอร์ 10 ของ โรนัลโด้ กลายเป็นของผู้มาใหม่ และเขาคนนั้นคือ โรแบร์โต้ บาจโจ้ เทพบุตรเปียทองคำของวงการฟุตบอลอิตาลี

แน่นอนว่า บาจโจ้ เติบโตมาตั้งแต่หนุ่มยันเเก่ก็สวมเบอร์ 10 ตลอด ตั้งแต่ ฟิออเรนติน่า, ยูเวนตุส, มิลาน และ ทีมชาติอิตาลี แล้วเเบบนี้ชายผู้เสียสละอย่าง ซาโมราโน่ ต้องทำอย่างไรต่อ?

เป็นอีกครั้งที่ความง่ายของ ซาโมราโน่ ทำให้ทุกอย่างไม่ต้องถกเถียงกันเยอะ อย่างที่เคยได้บอกไว้เขาเป็นแข้งละตินที่เถรตรง ฟุตบอลคือการวัดฝีเท้ากันในสนาม เรื่องเบอร์เป็นเพียงองค์ประกอบที่ไม่ได้สำคัญอะไรกับเขานัก เขาตัดปัญหาทุกอย่างด้วยการไม่เลือกเบอร์ 10 ซึ่งอาจจะทำให้เรื่องยาวได้ ด้วยการเปลี่ยนเบอร์ใหม่เสียให้เป็นเบอร์ 18 แถมทำให้เก๋ขึ้นด้วยการใส่เครื่องหมาย + เข้าไปด้วย นั่นหมายความว่า 1+8 = 9 เขาเเค่เปลี่ยนเบอร์เสื้อเท่านั้นแต่ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิม

zammzam
"เบอร์ 1+8 มายังไงน่ะเหรอ? อ๋อ ก็ผมยกเบอร์ 9 ให้กับ โรนัลโด้ ไง จากนั้นผมเลยไปปรึกษากับ ซานโดร มาซโซล่า และเขาก็บอกให้ผมใส่เบอร์ 18 แล้วเติมเครื่องหมาย + ไปตรงกลาง เราขออนุญาตไปยังสมาพันธ์ด้วยนะ ทุกอย่างถูกต้องทั้งหมด มันเลยเป็นประวัติศาสตร์ยังไงล่ะ"

ในแง่มุมของมนุษย์คนหนึ่ง ซาโมราโน่ คือไอ้หนุ่มที่มองโลกในแง่ดีอย่างที่สุด นั่นคือเหตุผลที่เขาจึงเป็นที่รักของแฟนๆ อินเตอร์ มิลาน และถูกสโมสรเชิญกลับมาเป็นแขก VIP ในวาระสำคัญต่างของสโมสรจนถึงทุกวันนี้

“สำหรับผม ฟุตบอลคือความพยายามและความมุ่งมั่น ผมอาจจะไม่ใช่นักเตะที่ยอดเยี่ยมแต่แฟนๆ มักจะพูดถึงผมในเรื่องนี้ ผมคิดเสมอว่าทุกครั้งที่บอลอยู่กับเท้าคือการได้จับบอลเป็นครั้งสุดท้าย"

"ส่วนเรื่องเบอร์เสื้อน่ะเหรอ? ก็ให้เขาไปเถอะเบอร์ 9 น่ะ ผมปลอบใจตัวเองด้วยเบอร์ 1+8 ... แล้วมันดันดังซะด้วยสิ" เขาหัวเราะส่งท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook