ฝ่าวิกฤตเส้นทางสู่แชมป์ของลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีก

[Opinion] ฝ่าวิกฤตหงส์แดง

[Opinion] ฝ่าวิกฤตหงส์แดง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กำลังเผชิญปัญหากับอาการบาดเจ็บของนักเตะในแผงกองหลัง โดยเฉพาะในตำแหน่งแบ็คขวาที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บกว่า 4 สัปดาห์ รวมทั้ง โจ โกเมซ, เดยัน ลอฟเรน และ โจเอล มาติป 3 เซ็นเตอร์แบ็คที่มีอาการบาดเจ็บและยังไม่สามารถกลับมาร่วมซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ในสัปดาห์นี้

สำหรับเกมที่จะไม่มีฟูลแบ็ควัย 20 ปีนั้น ​หงส์แดงจะลงเล่นในบ้าน 3 นัดในการพบกับ คริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ ซิตี้ และบอร์นมัธ โดยจะออกไปเยือน เวสต์แฮม ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เพียงนัดเดียว และอาจจะรวมถึงเกมในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเเลกแรก ในศึก​ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะพบกับ บาเยิร์น มิวนิค ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ด้วย

แม้จะพบกับทีมที่ไม่แข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก แต่หากลิเวอร์พูลต้องการลุ้นแชมป์อย่างจริงจังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 พวกเขาจะต้องเก็บทุกรายละเอียด ซึ่งหมายความว่าจะต้องเอาชนะให้ได้ในเกมที่ควรจะทำได้ ดังนั้น เยอร์เก้น คล็อปป์ จึงต้องมองหาตัวเลือกที่จะมาแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

เรามาดูกันว่ามีออปชั่นไหนน่าสนใจกันบ้าง

gettyimages-1076709278-594x59

ใช้บริการ เจมส์ มิลเนอร์ อีกครั้ง

สำหรับปัญหานี้ เดอะ ค็อป หลายคนอาจจะพากันนึกถึง นาธาเนียล ไคลน์ ที่พึ่งปล่อยให้กับ บอร์นมัธ ยืมตัวไปใช้งานจนจบฤดูกาล ซึ่งเจ้าตัวเป็นแบ็คขวาโดยธรรมชาติเพียงคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ในทีม พร้อมกับข้อสงสัยว่าเหตุใดนายใหญ่ชาวเยอรมันจึงตัดสินใจเช่นนี้

เหตุผลหนึ่งก็คือ คล็อปป์ มีมิดฟิลด์สารพัดประโยชน์อย่าง เจมส์ มิลเนอร์ ที่สามารถนำมาใช้งานในตำแหน่งนี้ได้ เหมือนที่เคยจับให้เล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายเมื่อฤดูกาล 2016-17 มาแล้ว

"น้ามิล" อาจจะไม่ใช่นักเตะที่มีความเร็วหรือมีเทคนิคเฉพาะตัวสูง แต่สามารถทดแทนได้ด้วยความแน่นอน ความมุ่งมั่น และความขยัน รวมทั้งมีเซ้นส์เกมรับที่ดี สามารถคุมพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม และเติมเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ ไคลน์ แล้ว คล็อปป์ มองว่าฟูลแบ็ควัย 27 ปีแม้จะเป็นนักเตะที่เติมเกมรุกได้ดี แต่ในเรื่องของเกมรับแล้วยังไม่สามารถไว้ใจได้เท่าที่ควร

แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างหนักก็คือ มิลเนอร์ ไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแรงและสมบูรณ์เหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากตอนนี้เจ้าตัวอายุ 33 ปีและเริ่มมีอาการบาดเจ็บเป็นระยะ ทำให้สภาพความฟิตอาจจะไม่เต็มร้อยพอที่จะรับมือกับเกมหนักตลอด 90 นาทีได้ แต่ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพื่อแก้ปญหาเฉพาะในช่วงนี้

gettyimages-1035698598-594x59

ฟาบินโญ่ ผู้เป็นทุกอย่าง

หลายคนอาจไม่รู้ว่า ฟาบินโญ่ เริ่มต้นโด่งดังกับ โมนาโก จากตำแหน่งแบ็คขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เจ้าตัวสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงในทีมได้ และทำให้ได้รับการจับตามองจากทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปในขณะนั้น ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

นอกจากการเป็นมิดฟิลด์และแบ็คขวาแล้วเขายังสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่ามีความเข้าใจและเซ้นส์ในเกมรับที่ยอดเยี่ยม หลังจากที่ได้จับคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คในเกมที่เอาชนะไบรท์ตันได้ 1-0 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

และที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้อีกก็คือ เจ้าตัวถูกจับไปเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาให้กับทีมชาติบราซิลอยู่บ่อยครั้ง นี่จึงอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในตำแหน่งนี้ยามที่ไม่มี อาร์โนลด์

อย่างไรก็ตามก็ต้องขึ้นอยู่ที่ว่านักเตะในแผงกองกลางที่เหลือจะมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมที่จะลงเล่นด้วยหรือไม่ เพราะหากมีใครคนใดคนหนึ่งบาดเจ็บขึ้นมาก็เป็นไปได้ว่าคล็อปป์จะต้องให้กองกลางบราซิลเลียนประจำการอยู่กลางสนามซึ่งจะมีประโยชน์กว่าการลงมาเล่นเกมรับในแผงหลัง

gettyimages-1083141950-594x59

ดันดาวรุ่งแจ้งเกิด

ทางเลือกสุดท้ายหากเกิดฟ้าผ่าลงแอนฟิลด์ นักเตะพร้อมใจกันเจ็บจนไม่สามารถหาใครทดแทนได้ ก็คงจะเป็นการดันดาวรุ่งจากทีมสำรองและชุด U23 ขึ้นมาทดแทน โดยดาวรุ่งที่สามารถอยู่ในข่ายที่จะเข้ามาเป็นกำลังเสริมในแนวรับด้านขวาของ หงส์แดง ได้ก็มีอยู่มี 2 ตัวเลือกที่น่าสนใจทั้ง ราฟาเอล คามาโช่ และ คี-จานา โฮเวอร์

สำหรับ คามาโช่วัย 18 ปี เพิ่งจะได้ประเดิมสนามในตำแหน่งแบ็คขวาในเกมที่พ่ายให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ในศึกเอฟเคัพ ไป 1-0 และเจ้าตัวยังมีชื่อในม้านั่งสำรองในเกมล่าสุดที่บุกไปเอาชนะ ไบรท์ตัน ได้ถึงถิ่น เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม รวมทั้งยังสามารถทำประตูในทีมลิเวอร์พูล ชุดอายุไม่ต่ำกว่า 23 ปีในตำแหน่งตัวรุกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้อีกด้วย

น่าสนใจว่า คล็อปป์ ได้ออกมาเบรกการย้ายไปเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในลีกโปรตุเกส ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยต้องการให้ทางดาวรุ่งรายนี้อยู่เป็นกำลังเสริมให้กับทีมชุดใหญ่ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

ในรายของ คี-จานา โฮเวอร์ ซึ่งก็ได้ลงประเดิมสนามพร้อมกับ คามาโช่ ในฟุตบอลเอฟเอ คัพ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่พ่ายให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดยเจ้าตัวได้ลงสนามหลังจากที่ เดยัน ลอฟเรน ได้รับการบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงต้นเกม

gettyimages-1079368314-594x59

อย่างไรก็ตาม ดาวรุ่งชาวดัตช์รายนี้ก็อาจจะยังไม่พร้อมที่จะแบกรับความกดดันมหาศาลในทีมชุดใหญ่ เพราะเจ้าตัวเพิ่งจะถูกไล่ออกในเกมชุดยู 23 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

หากพิจารณาจากฝีเท้าและประสบการณ์ของทั้งคู่แล้ว อาจจะยังเร็วไปที่จะบอกว่าดาวรุ่งทั้ง 2 รายนี้จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นกำลังเสริมในทีมชุดใหญ่ได้ในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล แต่ก็นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่ คล็อปป์ ได้ให้โอกาสทั้งสองในเกมระดับเอฟเอ คัพ และได้ร่วมซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งในช่วงที่เหลือน่าจะเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเพิ่มความมั่นใจก่อนที่จะค่อยๆก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดในถิ่นแอนฟิลด์ในปีต่อๆไป

จริงๆแล้วสถานการณ์นี้อาจจะไม่น่าห่วงอย่างที่คิด เนื่องจากมีตัวเลือกที่เพียงพอในการที่จะทดแทนในตำแหน่งแบ็คขวาและล่าสุดยังมีข่าวว่า โจ โกเมซ กำลังจะกลับมาลงซ้อมได้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งก็จะทำให้ปัญหาในแดนหลังของ ลิเวอร์พูล เบาบางลง รวมทั้งโปรแกรมที่หงส์แดงจะลงเล่นใน 4 นัดถัดไปเป็นการเจอกับทีมที่ไม่แกร่งมาก นักเตะที่มีอยู่อาจจะพอประคับประคองทีมให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ก่อนที่จะลงเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก กับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นงานหนักหลังจากนี้

ก็ต้องภาวนากันว่าอย่าให้นักเตะที่เหลืออยู่ต้องบาดเจ็บล้มตายเพิ่มเติม ไม่อย่างนั้นฟอร์มที่กำลังมาแรงและการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 29 ปีอาจจะเป็นเพียงฝันลมๆแล้งๆก็เป็นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook