ลีกผู้ดี แข่งขันสูงแต่มาตรฐานต่ำ?

ลีกผู้ดี แข่งขันสูงแต่มาตรฐานต่ำ?

ลีกผู้ดี แข่งขันสูงแต่มาตรฐานต่ำ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผมจำได้ว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้น เคยแสดงความเห็นในประเด็นที่ว่า สโมสรจากเมืองผู้ดี อาจจะ "สูญพันธุ์" ไปจากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ ตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

มาถึงวันนี้ โอกาสที่ว่า ดู "ใกล้เคียง" อย่างยิ่ง หลังการพลาดท่าตกรอบคาบ้านของ "สิงห์น้ำเงินคราม" เชลซี ที่โดน เปแอสเช ทีมดังเมืองน้ำหอม บุกมาตีเสมอแบบได้อเวย์โกล์ มากกว่า ทั้งๆ ที่ เชลซี ได้เปรียบตัวผู้เล่น 1 คนตั้งร่วม 1 ชั่วโมง

ความจริงแล้ว เชลซี เป็นตัวแทนจากอังกฤษ ที่มีโอกาสดีกว่าทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซนอล อย่างชัดเจน หลังผ่านเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อลูกทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่ อุตส่าห์บุกไปเสมอถึงปารีส 1-1 มีอเวย์โกล์ กลับมาอุ่นใจ

ทว่า! สุดท้ายแล้ว ลูกทีมของกุนซือมูรินโญ่ ก็มีอันต้องเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า โบกมือลาจากถ้วยบิ๊กเอียร์ ไปซะงั้น

กับสถานการณ์นัดที่ 2 ที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ตามหลัง บาร์เซโลน่า 1-2 แถมต้องไปเล่นที่คัมป์นู ส่วน "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ต้องไปเยือนฝรั่งเศส ด้วยสกอร์ตามหลัง โมนาโก 1-3



ตามทฤษฎี ทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซนอล ยังมีโอกาส "พลิก" เข้ารอบได้เหมือนกัน หากมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ที่ ชาลเก้ ยังไปชนะ เรอัล มาดริด ถึงเบอร์นาบิวได้ (แม้จะตกรอบ) และสิ่งที่ เปแอสเช ทำกับ เชลซี นั่นแหละ

แต่ในโลกความเป็นจริง โอกาสที่ทีมจากอังกฤษอีก 2 ทีม จะร่วงตกรอบตาม เชลซี มีความเป็นไปได้มากกว่าเยอะ

พอล สโคลส์ อดีตมิดฟิลด์ของทีมปิศาจแดง และทีมชาติอังกฤษ ออกมาแสดงความคิดเห็นได้อย่างน่าสนใจว่า

โอกาสที่ตัวแทนจากอังกฤษ จะ "สูญพันธุ์" จากศึกแชมเปี้ยนส์ลีกในปีนี้ เพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นไปได้สูงมาก แถม สโคลส์ ยังพูด "แทงใจ" แฟนบอลเมืองผู้ดีอีกต่างหากว่า

ชั่วโมงนี้ มาตรฐานของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก "ตามหลัง" ลีกชั้นนำอื่นๆ ของยุโรปไปหลายก้าวแล้ว



สโคลส์ ชี้ว่า การขับเคี่ยวชิงดีชิงเด่นกันในลีก ทำให้ พรีเมียร์ลีก ยังคงเป็นลีกที่ได้รับความนิยม และน่าตื่นตาตื่นใจที่สุด

แต่! ในเรื่องของ "มาตรฐาน" คือปัญหาที่บรรดาสโมสรจากเมืองผู้ดีต้องรีบ "แก้ไข" โดยด่วน

ผมมองคล้ายๆ กับที่ สโคลส์ พูด ก็คือ ชั่วโมงนี้ "มาตรฐาน" ของสโมสรจากเมืองผู้ดี "ล้าหลัง" ลีกอื่นๆ ไปแล้วจริงๆ

หนึ่งในสาเหตุหลักๆ ก็คงเป็นการมีแมตช์แข่งขันภายในมากมายเกินไป ทำให้ "สภาพ" ของผู้เล่นในลีกเมืองผู้ดี สู้ลีกอื่นๆ เขาไม่ได้

แต่เหตุผลที่ "สำคัญ" อีกเรื่อง ในความเห็นของผม ก็คือ ในขณะที่ลีกเมืองผู้ดี มีการแข่งขันที่ "สูง" กว่าลีกชั้นนำอื่นๆ กลับกลายเป็นทำให้ โอกาสในการที่แต่ละสโมสร จะดึงผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ มากองรวมกันอยู่ในทีม เป็นไปได้ไม่ง่าย



ในขณะที่บุนเดสลีกา มีเพียงแค่ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ทีมเดียวที่โดดเด่นสุดๆ เหนือสโมสรอื่นๆ จึงเป็นเรื่องง่ายที่ ซูเปอร์สตาร์ จะไปกองกันอยู่กับพวกเขา

ที่่สเปน ก็มีเพียงแค่ เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ที่ผลัดกันขึ้นครองความยิ่งใหญ่ เพิ่งมีทีมตราหมี "แอต.มาดริด" เบียดเข้ามาในซีซั่นที่แล้ว แต่บรรดานักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ทั้งหลาย หากจะมีการย้ายไปอยู่ในสเปน ก็จะนึกถึงแค่ เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ก่อนใครเพื่อน

ไม่เว้นแม้แต่ในอิตาลี ที่นักเตะต้องนึกถึง "ยูเวนตุส" ก่อนเป็นอันดับแรก เช่นเดียวกับที่ฝรั่งเศส ซึ่งชื่อ เปแอสเช ย่อมมาเป็นอันดับ 1 เสมอ

การดึงผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ เข้ามากองอยู่ในทีมเดียวกัน จึงทำให้การจัดการของแต่ละทีมยักษ์ใหญ่ในแต่ละลีก ทำได้ง่าย อันส่งผลถึงฟอร์ม และมาตรฐานการเล่นของพวกเขาโดยตรง


ส่วนที่พรีเมียร์ลีก ชั่วโมงนี้ การมีทีมใหญ่ที่ขับเคี่ยวกัน 4-5 ทีม ทำให้โอกาสที่จะมีทีมใดทีมหนึ่ง คว้าซูเปอร์สตาร์ไปครองแบบกระจุกอยู่ในทีมเดียว เป็นไปแทบไม่ได้

ส่งผลให้เวลาที่ต้องออกไปต่อกรกับทีมจากลีกอื่นๆ ที่สามารถสะสมผู้เล่นเกรดเอ และ เอบวก เอาไว้เพียบ  เป็นไปได้ยากเย็นแสนเข็ญนัก

ผมมองว่า เหตุผลตรงนี้ น่าจะรับกับสิ่งที่ พอล สโคลส์ พูดถึง นั่นก็คือ พรีเมียร์ลีก คือลีกที่มีการแข่งขันสูงสุด แต่ไม่ใช่ลีกที่มีมาตรฐานดีที่สุด

จริงเท็จอย่างไร ก็อยู่ที่ความคิดเห็นของแต่ละคน ทว่า! ผลลัพธ์ที่ออกมานั่้นแหละ บอกได้ชัดเจนถึงคำวิพากษ์วิจารณ์ของสโคลส์ ในครั้งนี้ครับ

เรื่องโดย : เฮียนอส

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook