รู้จักเซนเตอร์ใหม่หงส์แดง : "รักนะ คาราวาน"

เรียกได้ว่ามาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลยจริงๆ ในขณะที่ทีมตกเป็นข่าวกับพ่อค้าแข้งชื่อดังมากหน้าหลายตา ล่าสุด หากฟ้าไม่ผ่าลงกลางแอนฟิลด์เสียก่อน ดูเหมือนว่าทีม “หงส์แดง” จะได้เซ็นเตอร์ตัวใหม่เข้าสู่ทีมแล้วเรียบร้อย

“รักนาร์ คลาวาน” คือปราการหลังคนใหม่ที่จะเข้ามาทดแทน “มาร์ติน สเคอร์เทล” และ “โคโล ตูเร่” ผู้จากไป..

Who is Klavan !? เขาคือใคร !?

มีเพียงความเงียบงันที่ทดแทนคำตอบ เนื่องก็เพราะไม่มีใครรู้จักชื่อเสียงเรียงนาม ทว่าที่แน่ๆนับตั้งแต่วันนี้ “รักนะ คาราวาน” ในชื่อจุ๋มจิ๋มตามแบบฉบับไทยๆ จะกลายร่างมาเป็น “พญาหงส์” ตัวใหม่ของวงการ

วันนี้ เพื่อเป็นการทำความรู้จักกับเซนเตอร์ใหม่ถอดด้ามของลิเวอร์พูล เราจะขอพาเหล่า “เดอะ ค็อป” ทุกท่านไปทำความรู้จักกับ “5 สิ่งที่ควรรู้” ของแข้งทีมชาติเอสโตเนียรายนี้กันครับ :

1. “โดดเด่นลูกกลางอากาศ”

ยอดเซนเตอร์ของทีมเอาก์สบวร์กอาจไม่ได้มีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทว่าว่ากันว่า นี่คือหนึ่งในปราการหลังที่มีความเขี้ยวในเรื่องกลางอากาศมากที่สุดของบุนเดสลีกา

ด้วยความสูง 6 ฟุต 1 นิ้วทำให้รูปร่างของ “คลาวาน” ใหญ่พอที่จะเข้าท้าชนกับยอดกองหน้าได้อย่างสบายๆ ไม่เพียงแต่ลูกโขกที่กินเรียบ หากแต่คลาวานยังเป็นเซนเตอร์ที่ไม่โฉ่งฉ่างอีกด้วย มีสถิติเมื่อซีซั่นที่แล้วออกมาว่า ในทุกๆ 4 เกมคาราวานจะโดนจดชื่อเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเซนเตอร์ทั่วไปที่เต็มไปด้วยการเข้าปะทะและความดุดัน

แม้จะเป็นที่คาดกันว่า เจ้าตัวน่าจะถูกซื้อเข้ามาเพื่อเป็นแบ็คอัพ ทว่าหากวันดี-คืนดีฟอร์มไฉไลก็ไม่แน่เหมือนกันว่า คลาวาน อาจจะยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ยาวๆ เพราะ ณ ขณะนี้ โจ โกเมซ และ มามาดู ซาโก้ ก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ ขณะที่ ติอาโก้ อิลอริ ก็เตรียมที่จะตะลุยโอลิมปิกในเดือนหน้านี้ ทำให้แข้งวัย 30 ปีน่าจะได้โอกาสพิสูจน์ตนเองอย่างแน่นอน

2. “เคยเล่นมิดฟิลด์มาก่อน”

เห็นถูกซื้อมาเพื่อเล่นเซนเตอร์แบบนี้ แต่เชื่อไหมครับว่าเจ้า “รักนะ คาราวาน” เองก็สามารถเล่นแผงมิดฟิลด์ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พ่อของเจ้าตัว “ซินตาร์” เคยเล่นมาก่อน และโดดเด่นถึงขั้นติดทีมชาติเอสโตเนียด้วย เรียกได้ว่าเชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ

มิหนำซ้ำยังมีรายงานว่า ในตอนเริ่มต้นอาชีพ “คลาวาน” ไม่เพียงแต่เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ หากแต่ถูกจับไปเล่นเป็นเพลย์เมคเกอร์ด้วยซ้ำ! ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับอย่างไม่เปิดเผยว่า ตนเองมี “ซีเนอดีน ซีดาน” เป็นฮีโร่ในดวงใจตั้งแต่วัยกระเตาะ

สรุปก็คือ “รักนาร์ คลาวาน” ไม่ต่างกับแข้งสารพัดประโยชน์อย่างแท้จริง โดยนอกจากตำแหน่งมิดฟิลด์แล้ว เจ้าตัวยังสามารถโยกไปเล่นแบ็คซ้ายได้เช่นกัน

3. “มากประสบการณ์”

หากแค่นั้นยังการันตีความเก๋าไม่พอ นี่คือเซนเตอร์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานับไม่ถ้วนตั้งแต่บ้านเกิดยันท่องตะลุยฮอลแลนด์และเยอรมนี คลาวานคือแข้งเอสโตเนียคนแรกที่เล่นบนเวทียูฟ่า ชปล. เมื่อสมัยอยู่กับอัลค์มาร์ อีกทั้งยังเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของประเทศถึง 3 สมัย

เมื่อ 2 ซีซั่นก่อน สาเหตุที่ทีมเล็กๆอย่างเอาก์สบวร์กบินฉิว และยกระดับเกมรับให้เสียประตูสุดน้อย ซึ่งมีเพียง บาเยิร์น, ดอร์ทมุนด์, กลัดบัค และ ชาลเก้ เท่านั้นที่สถิติเกมรับดีกว่า สาเหตุก็เป็นเพราะเจ้าตัวนั่นแหละ เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาที่ คลาวาน ลงคุมเกมรับไม่ขาดแม้แต่นาทีเดียว พร้อมพาสโมสรจบอันดับ 5 ได้อย่างสวยงาม

4. “หวิดย้ายซบคู่ปรับร่วมเมือง”

ในขณะที่ตอนนี้แฟนบอลหงส์แดงกำลังสรวลเฮฮาไปกับแข้งใหม่ ครั้งหนึ่งประวัติศาสตร์เกือบพลิกโฉมไปอีกแบบ เมื่อในปี 2015 มีรายงานว่า ดาวเตะวัย 30 ปีเกือบย้ายร่วมทีมเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นคู่ปรับของลิเวอร์พูลโดยตรง!

ในตอนนั้นมีการติดต่อจากทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินเข้ามา ซึ่ง ณ เวลานั้นเอเย่นต์ของเจ้าตัวก็ได้ให้สัมภาษณ์กับคิ๊กเกอร์สื่อเยอรมันว่า “ข้อเสนอจากเอฟเวอร์ตันน่าสนใจมาก มันเป็นความฝันของเขามาตลอดในการได้เล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกซักวัน”

ช่างน่าเสียดายที่สุดท้าย คลาวาน กลับเรื่องปฏิเสธความฝันของตน หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ เจ้าตัวบอกปัดเอฟเวอร์ตันเนื่องก็เพราะทีมดังจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ไม่ได้ไปเล่นบอลยุโรปนั่นเอง

กาลเวลาผ่านไป “คลาวาน” กลับทำให้เราต้องประหลาดใจ เมื่อหนึ่งปีให้หลังเจ้าตัวกำลังจะย้ายร่วมทีมลิเวอร์พูลที่ซึ่งไม่ได้ไปจะตะลุยบอลยุโรปเหมือนกัน!

แต่ก็อย่างว่าเนอะ โอกาสได้เล่นแอนฟิลด์ซักครั้งใครกันจะไม่โหยหา!?

5. “มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ ฟาน ฮาล”

จากเกลียดกลายเป็นรัก เรื่องราวแบบนี้อาจมีเพียงแค่นวนิยาย ทว่ากับชีวิตจริง เชื่อหรือไม่ว่า ทั้ง ฟาน ฮาล และ รักนาร์ คลาวาน ก็เคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันเช่นกัน

มิใช่ว่าทั้งคู่แปลงร่างเป็นยอดชายแต่อย่างใด หากแต่ครั้งหนึ่งทั้งสองเคยมีความสัมพันธ์ที่สุดซับซ้อนยากจะอธิบาย ย้อนกลับไปเมื่อ 14 ปีก่อน ณ วันที่ คลาวาน ยังเป็นเพียงแค่ดาวรุ่ง ในครั้งนั้นเจ้าตัวพยายามไปทดสอบฝีเท้ากับซันเดอร์แลนด์แต่กลับล้มเหลว ทำให้ดาวรุ่งชาวเอสโตเนียนตัดสินใจบินลัดฟ้าไปเสี่ยงดวงขอทดสอบฝีเท้ากับอาแจ็กซ์แทน

กับทีมดังแห่งอัมสเตอร์ดัม แดนนี่ บลินด์ ดูจะชอบใจดาวเตะรายนี้มาก และเตรียมที่จะมอบสัญญา แต่แล้วเส้นทางของ รักนาร์ กลับต้องพบกับอุปสรรค เมื่อผู้อำนวยการเทคนิคของทีม ณ เวลานั้นอย่าง หลุยส์ ฟาน ฮาล กลับไม่ปลื้มเนื่องจากไม่ชอบปราการหลังสไตล์รูปร่างใหญ่ และไม่ใช้สมองเป็นทุนเดิม ทำให้ ฟาน ฮาล ที่มีอำนาจเด็ดขาดขั้นสุดท้าย ปฏิเสธการมอบสัญญาให้กับเจ้าตัว

7 ปีผ่านไป น่าเหลือเชื่อว่าเส้นทางของทั้งคู่จะกลับมามีสตอรี่ร่วมกันอีกครั้ง หนนี้สมัยที่ คลาวานอยู่กับเฮราเคิ่ลส์ ฟาน ฮาลซึ่งกำลังคุม เอแซ่ด อัลค์มาร์ กลับเป็นผู้ดอดไปติดต่อกับแข้งเอสโตเนียรายนี้ด้วยตนเอง ก่อนจะเชื้อเชิญให้เข้ามานั่งในออฟฟิศพร้อมกับบรรยายสรรพคุณของปรัชญาทีม

ในครั้งนั้น รักนาร์ คลาวาน ก็ทำท่าทีอิดออดไม่ยอมเซ็นสัญญา เนื่องจากยังจำฝังใจกับเหตุการณ์ที่สุดไม่รู้ลืมเมื่อครั้งวัยเยาว์ ทว่าภายหลังจากที่นายใหญ่ชาวดัตช์ตามตื้อและโน้มน้าว ในที่สุด คลาวาน ก็ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ อัลค์มาร์ สมใจอยาก พร้อมกับถูกโยกจากแบ็คซ้ายมาเป็นเซนเตอร์แบ็ค

ที่ครั้งหนึ่งสมัยวัยเยาว์เจ้าตัวเคยถูก ฟาน ฮาล สั่งให้เล่นในตำแหน่งนี้ก่อนจะบอกว่า “ไม่เข้าตา” นั่นแหละ!

มาสเตอร์ ริท