ความแตกต่างของฟุตบอลลีกใหญ่จาก "เวนเกอร์"

ความแตกต่างของฟุตบอลลีกใหญ่จาก "เวนเกอร์"

ความแตกต่างของฟุตบอลลีกใหญ่จาก "เวนเกอร์"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเชื่อว่าแฟนบอลคงมีความสุขกับการเสพย์กีฬาลูกหนังทุกลีกใหญ่ที่แข่งกันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนถึงเช้าของอีกวัน ถึงแม้ว่า “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” จะเป็นลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแต่เชื่อว่าลีกอื่นๆก็สนุกไม่แพ้กันในรูปแบบที่แตกต่างทั้ง ลาลีกา สเปน, บุนเดสลีกา เยอรมัน, กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี หรือ ลีกเอิง ฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตามหลายๆคนอาจจะเคยดูหรือผ่านตาฟุตบอล 5 ลีกใหญ่ของยุโรปมาแล้ว และน่าจะพอรู้สึกได้ว่าแตกต่างกันอย่างไร แต่มีบทความต่างประเทศที่น่าสนใจชิ้นนึงซึ่งมาจากบทสัมภาษณ์ของ “อาร์แซน เวนเกอร์” นายใหญ่ของ “อาร์เซน่อล” คนปัจจุบันที่แยกแยะความแตกต่างและจุดเด่นของแต่ละลีกไว้อย่างน่าสนใจ

เริ่มจากลีกแรก “ลาลีกา สเปน” ซึ่งเวนเกอร์ให้นิยามว่าเป็นลีกที่เน้นในเรื่องของ “เทคนิค” ที่ทุกๆทีมเน้นในเรื่องคุณภาพของเรื่องนี้ ทำให้บางครั้งถ้าไม่ใช่ทีมใหญ่ที่มีซุปตาร์ในทีมมากมายเจอกันคนทั่วไปอาจจะดูไม่สนุก และไม่แปลกว่าทำสถิติเฉลี่ยนของผู้ชมในสนามของลีกนี้ถึงน้อยที่สุดในบรรดา 5 ลีกใหญ่ของยุโรป แต่การที่นักเตะมาเล่นในลีกนี้ถือว่าเป็นโรงเรียนของนักเตะที่ได้พัฒนาฝีเท้าของตัวเองเป็นอย่างดี รวมทั้งเทคนิคฟุตบอลที่ครองโลกอย่าง “Tikki-Takka” ก็มาจากที่นี้

ลีกต่อมาคือ “บุนเดสลีกา เยอรมัน” ที่เวนเกอร์บอกว่าถ้าคิดถึงลีกนี้ สิ่งที่คิดถึงคงเป็น “การเคลื่อนไหว” “สปิริตทีม” และ “ผลลัพท์” ด้วยนิยามว่า ทีมต่างๆในเยอรมันทำงานอย่างหนักนอกสนามหรือในสนามซ้อมเพื่อให้ได้ผลลัพท์ (ผลการแข่งขัน หรือ ความสำเร็จ) ที่ดีในสนามภายใต้ความเป็นมืออาชีพ ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นการสะท้านภาพและลักษณะนิสัยของคนเยอรมันเป็นอย่างดี ดังนั้นไม่แปลกว่าทำไมระบบการสร้างดาวรุ่งที่เก่งและมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมถึงมาจากที่นี้ นอกจากนั้นเจ้าตัวยังบอกว่าลีกนี้มีบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมและการสนันสนุนจากแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมเต็มสนามตลอด

ขณะที่ “กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี” นายใหญ่ของปืนใหญ่บอกว่า ด้วยรูปแบบที่มีทีมในลีกเพียงแค่ 16 ทีมก่อนหน้านี้ (เดี๋ยวนี้มี 20 แล้ว) ทำให้ทีมทีมต้องแข่งขันกันอย่างหนัก ไม่ว่าจะลุ้นแชมป์ โควต้ายุโรปหรือหนีตกชั้นที่สมัยก่อนเอาถึง 4 ทีม ทุกทีมต้องเน้นในเรื่องของ “เกมรับที่เหนียวแน่น” เพราะไม่มีทีมไหนอยากแพ้เพราะความเสียหายไม่ใช่แค่แพ้ในเกมนั้นเท่านั้น สิ่งสำคัญของทีมฟุตบอลในสไตล์อิตาเลี่ยนคือเกมรับ ทำให้อีกมุมนึงลีกนี้จึงเป็นลีกที่สามารถผลิตนักเตะกองหน้าชั้นยอดของโลกมากมาย ไม่ว่าจะในอดีตถึงปัจจุบันอย่าง ดิเอโก้ มาราน่า, โรแบร์โต้ บักโจ้, อเล็กซานโดร เดล ปิเอโร่, คริสเตียน วิเอรี่, ฟิลิโป้ อินซ่ากี้, โรนัลโด้, เฮอร์นัน เครสโป, ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ หรือคนอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน

มากันที่ “ลีกเอิง ฝรั่งเศส” ที่เวนเกอร์บอกว่าในปัจจุบันกำลังมีปัญหาจากคำถามที่ว่า “ตัวตนที่แท้จริงของฟุตบอลฝรั่งเศส” เป็นอย่างไร เพราะปัจจุบันมีนักเตะที่มาจากผู้อพยพจากที่ต่างๆมากมาย โดยเฉพาะในแอฟริกา แต่สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนเลยคือธรรมชาติของฟุตบอลฝรั่งเศสในปัจจุบัน “เน้นความแข็งแกร่งของร่างกายมากกว่าเทคนิคของนักฟุตบอล”

ปิดท้ายที่ “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งเจ้าตัวทำงานมาเพิ่งครบ 20 ปีกับลีกนี้บอกว่า ลีกอังกฤษมีจุดเด่นในเรื่องของ “การแข่งขัน” “คำมั่นสัญญา” และ “ความเร็วของเกม” ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีแฟนบอลที่เสพย์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกทั่วโลกแต่ถ้าดูในสนามมีแฟนบอลรุ่นเก่ามากมายที่เชียร์ทีมโปรดของตัวเองมาตั้งแต่เด็กจนแก่เหมือนคำมั่นว่าคุณจงรักภักดีกับทีมไหนแล้ว เหมือนคำสัญญาตลอดชีวิต ส่วนประเด็นเรื่อง “ความเร็วของเกม” เป็นสิ่งที่ต่างจากทุกลีกเพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนถึงจะมีโค้ชฟุตบอลหรือนักเตะมาจากทุกมุมโลกแต่เวลาลงสนาม นักเตะเล่นกัน “เร็ว” มาก บางทีเวลาไม่ถึงนาที ลูกบอลจากฝั่งนึงสามารถไปอยู่อีกฝั่งนึงของสนามได้แล้วซึ่งนี้แหละอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมลีกนี้ถึง “โคตรมันน์” และเป็นลีกที่มีสถิติผู้ชมทั้งในสนามหรือนอกสนามมากที่สุดในโลก

ลองอ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษได้เพิ่มเติมจาก https://www.quora.com/What-is-the-difference-between-Spanish-British-German-Italian-and-French-styles-of-club-football

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook