เลวานเบิ้ล! บาเยิร์น คืนฟอร์มโหดรัวถล่ม ดอร์ทมุนด์ ยับเยิน 4-0

การแข่งขัน ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมนี คู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค พบกับ "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ ที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

เพียงแค่ 17 นาที บาเยิร์น มิวนิค ก็ได้ประตูออกนำ 1-0 เบนฌาแม็ง ปาวาร์ เก็บบอลจังหวะสองก่อนเปิดย้อนเข้าไปในเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เทกตัวโขกตุงตาข่ายสำเร็จ

นาทีที่ 26 โธมัส มุลเลอร์ พาบอลขึ้นหน้าก่อนโดนเบียดล้มลงแต่ยังแหย่ขาส่งให้ คิงส์เล่ย์ โกมัน รับบอลก่อนปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป


นาทีที่ 38 เจ้าถิ่นลุยต่อและส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้อีกครั้งจาก แซร์ช นาบรี้ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเนื่องจากเจ้าตัวอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ทำให้จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิค นำ 1-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 โธมัส มุลเลอร์ ลากบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนเปิดยัดไปหน้าประตูให้ แซร์ช นาบรี้ ซัดผ่านมือ โรมัน เบือร์กี้ นายทวารทีมเยือนเข้าไปตุงตาข่าย บาเยิร์น มิวนิค หนี 2-0

นาทีที่ 69 ดอร์ทมุนด์ น่าจะได้ประตูไล่มา อาชราฟ ฮาคิมี่ เปิดบอลเข้าเขตโทษบอลเลยไปถึง ปาโก้ อัลกาเซร์ แต่เจ้าตัวกลับยิงหลุดกรอบออกไปอย่างเหลือเชื่อ


นาทีที่ 76 มานูเอล นอยเออร์ สาดบอลยาวขึ้นหน้า อีวาน เปริซิซ โหม่งชงไปถึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำชิ่งกับ โธมัส มุลเลอร์ ก่อนซัดตุงตาข่าย บาเยิร์น มิวนิค นำห่าง 3-0

นาทีที่ 80 อีวาน เปริซิซ เปิดบอลริมเส้นเข้าเขตโทษ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ล้มตัวยิง มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ พยายามสกัดแต่โดนไม่ดีบอลปลิ้นเข้าประตูตัวเอง บาเยิร์น มิวนิค ทิ้งเป็น 4-0

จบเกม "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค รัวถล่ม "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ 4-0 เก็บสามแต้ม รั้งอันดับ 3 และถือเป็นชัยชนะเกมแรกของ ฮันส์ ดีเทอร์-ฟลิค กุนซือคนใหม่ที่ประเดิมคุมในเกมลีก

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บาเยิร์น มิวนิค (4-3-3):มานูเอล นอยเออร์,เบนฌาแม็ง ปาวาร์,ฆาบี มาร์ตีเนซ,ดาวิด อลาบา,อัลฟอนโซ่ เดวิส,เลออน โกเร็ทซ์ก้า (ติอาโก้ อัลกันตาร่า น.72),โยชัว คิมมิช,โธมัส มุลเลอร์,แซร์ช นาบรี้ (ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.70),โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้,คิงส์เล่ย์ โกมัน (อีวาน เปริซิซ น.75)

ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1 ):โรมัน เบือร์กี้,อาชราฟ ฮาคิมี่,มานูเอล อคานจี,มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์,นิโค่ ชูลซ์,ยูเลี่ยน ไวเกิล (ปาโก้ อัลกาเซร์ น.61),อักเซล วิตเซล,จาดอน ซานโซ่ (ราฟาแอล เกร์เรย์โร่ น.36),ยูเลี่ยน บรันด์ท,ธอร์กกาน อาซาร์,มาริโอ เกิทเซ่ (มาร์โค รอยส์ น.61)